ครม.อนุมัติให้ กฟผ. เพิ่มวงเงินกู้ระยะสั้นเป็น 30,000 ล้านบาท

Date:

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)อนุมัติให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพิ่มวงเงินกู้ระยะสั้นแบบ Credit Line จากวงเงินเดิม 10,000 ล้านบาท เป็น 30,000 ล้านบาท จนถึงวันที่ 11 กันยายน 2567 ซึ่งเป็นวันที่วงเงินกู้ระยะสั้นแบบCredit Line ที่ได้รับอนุมัติจากครม.เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2564 จะครบกำหนดระยะเวลา 3 ปี ภายใต้เงื่อนไขเดิมประกอบด้วย กู้เบิกเกินบัญชี ตั๋วสัญญาใช้เงิน การทำTrust Receipt (R/T) และการทำสัญญากู้เงินเมื่อทวงถาม(Call Loan) โดยจะพิจารณาทำสัญญาเงินกู้กับสถาบันการเงินที่เสนอรูปแบบที่มีต้นทุนต่ำที่สุด ตามอัตราดอกเบี้ยตลาด โดยกระทรวงการคลังจะไม่ค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ยจากการกู้เงินดังกล่าว

ทั้งนี้กฟผ.อยู่ระหว่างดำเนินการนำเสนอการกู้เงินเพื่อบริหารภาระค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ (เอฟที) ตามนโยบายของรัฐประจำปีงบประมาณ 2566 ภายใต้กรอบวงเงินไม่เกิน 85,000 ล้านบาท ซึ่งหากได้รับความเห็นชอบจากครม.แล้ว กฟผ.คาดว่าจะได้รับเงินกู้ดังกล่าวในช่วงปลายเดือนตุลาคม 2565 ซึ่งไม่ทันต่อการรองรับการขาดสภาพคล่องในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน 2565 ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องมีวงเงินกู้ระยะสั้นแบบCredit Line เพิ่มขึ้น ตามคาดการณ์ในเดือนสิงหาคม 2565 เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่องวงเงินประมาณ 30,000 ล้านบาทดังกล่าว เนื่องจากกฟผ.ต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานสูงมากได้แก่ ค่าเชื้อเพลิง ค่าซื้อกระแสไฟฟ้า งบลงทุน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ โดยรายจ่ายที่เกิดขึ้นจริงในส่วนของค่าเชื้อเพลิงและค่าซื้อกระแสไฟฟ้าในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2565 สูงกว่าประมาณการจำนวน 23,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มสูงขึ้นกว่าประมาณการที่คาดการณ์ไว้

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

พิชัย ยังปิดเงียบชื่อผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่

พิชัย ยังปิดเงียบชื่อผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ ไม่บอกชงชื่อ “วิทัย” หรือ “ดร.รุ่ง” ให้ ครม. เห็นชอบ

“พิชัย” แย้มลดภาษีนำเข้า 0% ให้สหรัฐฯ

“พิชัย” แย้มลดภาษีนำเข้าเหลือ 0% ให้สหรัฐฯหลายรายการ มั่นใจข้อเสนอน่าสนใจ

ตลาดหุ้นไทย ลดลงแล้ว 22.2%

ตลาดหุ้นไทยเดือนมิ.ย. 68 ลดลง 5.2% รวมตั้งแต่ต้นปีลดลงแล้ว 22.2% จากสารพัดปัจจัยเสี่ยง

นักท่องเที่ยวกลุ่ม High Spending สร้างรายได้ 1.74 ล้านล้าน

นักท่องเที่ยวกลุ่ม High Spending ช่วยพยุงรายได้ภาคท่องเที่ยวทดแทนจีนที่หายไป สร้างรายได้ให้แก่เศรษฐกิจไทย 1.74 ล้านล้านบาท