ทีเอ็มบีธนชาต จ่ายเงินปันผลรวมพิ่มขึ้น 44%

Date:

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเอ็มบีธนชาต (ทีทีบี) ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารมีมติให้ขออนุมัติการจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 2 จากผลการดำเนินงานปี 2566

จากที่ประชุมผู้ถือหุ้นที่จะจัดขึ้นในวันที่ 9 เมษายน 2567 นี้ ในอัตรา 0.055 บาทต่อหุ้น กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD (วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล) ในวันที่ 17 เมษายน 2567 และกำหนดจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในวันที่ 8 พฤษภาคม 2567 

นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า จากผลการดำเนินงานที่เป็นไปตามเป้าหมายและความแข็งแกร่งทางการเงินที่เพิ่มขึ้นในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการทำกำไร ความสามารถในการรองรับความเสี่ยง สถานะสภาพคล่อง และฐานเงินกองทุนที่อยู่ในระดับสูง

ส่งผลให้ทีทีบีสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับองค์กรและผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่รวมกิจการ 

โดยมูลค่าขององค์กรและผู้ถือหุ้นที่เพิ่มขึ้นนี้ สะท้อนให้เห็นได้จากหลากหลายแง่มุม ทั้งในแง่ของมูลค่าหุ้น TTB และอัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น หรือ ROE ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ที่สำคัญคือการยกระดับนโยบายการจ่ายเงินปันผล

ซึ่งในปี 2565 ทีทีบีได้ปรับนโยบายการจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นจากเดิม 1 ครั้ง เป็น 2 ครั้งต่อปี และสามารถปรับอัตราการจ่ายเงินปันผล หรือ Dividend Payout Ratio จากระดับ 30% – 35% ในช่วงก่อนรวมกิจการ ขึ้นมาอยู่ที่ 50% ในปี 2565 และ 55% ในปี 2566 ซึ่งถือว่าสูงเป็นลำดับต้น ๆ ของอุตสาหกรรมธนาคาร

ทั้งนี้ สำหรับรอบผลการดำเนินงานปี 2566 ทีทีบีได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตรา 0.050 บาทต่อหุ้น เมื่อเดือนตุลาคม 2566 และเตรียมขออนุมัติการจ่ายครั้งที่ 2 อีก 0.055 บาท รวมเป็นอัตราเงินปันผลในปี 2566 ที่ 0.105 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าเงินปันผลทั้งสิ้น 10,196 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% จากการจ่ายเงินปันผลในปี 2565 หรือเทียบเท่ากับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล หรือ Dividend Yield ที่ประมาณ 5.7% – 5.8% ต่อปี ณ ระดับราคาหุ้น TTB ในปัจจุบันที่ประมาณ 1.80 – 1.85 บาทต่อหุ้น

นายปิติ กล่าวในตอนท้ายว่า พัฒนาการทั้งด้านผลการดำเนินงานและการจ่ายเงินปันผล เป็นเครื่องสะท้อนถึงความตั้งใจของทีทีบีในการส่งมอบผลตอบแทนกลับคืนสู่ผู้ถือหุ้น โดยเราจะยังคงมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบต่อไป เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

ควบคู่กับบริหารจัดการส่วนทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้มั่นใจว่าธนาคารมีความพร้อมสำหรับการขยายตัวทางธุรกิจ และในขณะเดียวกันก็สามารถรักษาระดับการจ่ายเงินปันผลให้อยู่ในระดับสูงได้ในระยะยาว พร้อมเดินหน้าไปสู่การเป็นธนาคารที่ Make REAL Change เพื่อให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง 

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

รัฐบาลชวน “เที่ยวดีมีคืน” ลดหย่อนภาษี 30,000 บาท

รัฐบาลชวน “เที่ยวดีมีคืน” เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว จูงใจประชาชนใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีสูงสุด 30,000 บาท

รัฐบาล ชวนร้านค้า คนละครึ่งพลัส อัพสกิล รับเงิน 2,000 บาท 

รัฐบาล ชวนร้านค้า คนละครึ่งพลัส อัพสกิลการเงินและดิจิทัล เรียนหลักสูตรออนไลน์กับ ธ. ออมสิน รับเงินสนับสนุนสูงสุดรายละ 2,000 บาท

ธ.ก.ส. เดินหน้าโครงการ BAAC Carbon Credit

ธ.ก.ส. เดินหน้าโครงการ BAAC Carbon Credit มุ่งเพิ่มพื้นที่สีเขียวและการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับชุมชนผ่านการซื้อขายคาร์บอนเครดิตในพื้นที่ จ.อุดรธานี และ จ.หนองบัวลำภู

นายกฯ อนุทิน ช้อปเพลิน คนละครึ่งพลัส ที่จังหวัดพิจิตร

นายกฯ อนุทิน  พร้อมแวะทักทายชาวบ้านถาม กระแสพ่อค้าแม่ค้า “คนละครึ่งพลัส” จังหวัดพิจิตร