กสิกรไทยบุกตลาดจีน เปิดสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ 

Date:

ธนาคารกสิกรไทย (ประเทศจีน) เปิดสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ที่เมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ยกระดับการให้บริการในประเทศจีน และรองรับการขยายตัวด้านการค้าการลงทุน มุ่งเน้นธุรกิจจีนที่ต้องการไปลงทุนในไทยและอาเซียน กับธุรกิจไทย-อาเซียนที่ต้องการขยายตลาดมายังประเทศจีน เพื่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจระหว่างภูมิภาค ตอกย้ำการเป็นธนาคารแห่งภูมิภาค AEC+3 ผ่านการบริการดิจิทัล ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของ กสิกรไทยบุกตลาดจีน

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า กสิกรไทยบุกตลาดจีน นับตั้งแต่ปี 2560 ที่ธนาคารกสิกรไทย (ประเทศจีน) ดำเนินธุรกิจในฐานะธนาคารท้องถิ่น (Locally Incorporated Institution: LII) ได้มุ่งเน้นบริการที่ช่วยให้ลูกค้าท้องถิ่นในจีนเข้าถึงบริการด้านการเงิน เพื่อยกระดับการพัฒนาชีวิตและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ภายใต้แนวคิด “Better Me และ Better SMEs” ผ่านช่องทางบริการดิจิทัล พร้อมกับการเชื่อมต่อลูกค้าธุรกิจจีนกับภูมิภาค AEC+3 ผ่านเครือข่ายของธนาคารในภูมิภาคอาเซียน และล่าสุด ได้ปักหมุดการเติบโตไปอีกขั้น ด้วยการเปิดสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ใจกลางเมืองเซินเจิ้น โดยลงทุนซื้อพื้นที่ในอาคารสำนักงานกว่า 13,700 ตารางเมตร ครอบคลุมอาคารถึง 7 ชั้น ตั้งแต่ชั้น 12-18 รองรับพนักงานได้ราว 1,000 คน เพื่อขยายการให้บริการแก่ลูกค้าธุรกิจ เอสเอ็มอี และลูกค้าบุคคล ยกระดับความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อบริการได้ตอบโจทย์ความต้องการในยุคปัจจุบันที่ไม่หยุดอยู่แค่การให้บริการด้านการเงิน จากการนำเสนอแพลตฟอร์มธนาคาร ที่อาศัยข้อได้เปรียบจากเครือข่ายบริการของธนาคารที่มีในพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญทั่วภูมิภาคอาเซียน อาทิ เวียดนาม อินโดนีเซีย

การเปิดสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของ สิกรไทยบุกตลาดจีน ครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการประกาศความสำเร็จอีกขั้นของธนาคารกสิกรไทยที่ตั้งเป้าเป็นธนาคารแห่งภูมิภาคแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างประเทศจีนและธนาคารกสิกรไทย นับตั้งแต่การบุกเบิกธุรกิจในประเทศจีนเมื่อปี 2537 จนถึงปัจจุบันที่ธนาคารกสิกรไทยได้มุ่งดำเนินธุรกิจเพื่อส่งเสริมการค้าข้ามพรมแดนระหว่างประเทศ รวมทั้งสมาชิกในประเทศอาเซียน ซึ่งการเลือกตั้งสำนักงานใหญ่ของธนาคารที่เซินเจิ้น เป็นการตัดสินใจทางยุทธศาสตร์ที่มีรากฐานมาจากประวัติศาสตร์และสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย รวมถึงวิสัยทัศน์ที่มองไปข้างหน้า โดยเซินเจิ้นนอกจากจะเป็นเมืองแห่งเทคโนโลยี จนถูกขนานนามว่าเป็น Silicon Valley of China แล้ว ยังเป็นหนึ่งในเมืองหลักของพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ Greater Bay Area ที่ครอบคลุม ฮ่องกง มาเก๊า กวางโจว ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจแบบบูรณาการ มีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำระดับโลกภายในปี 2579

ทั้งนี้ ด้วยวิสัยทัศน์การมุ่งเป็นธนาคารแห่งภูมิภาค AEC+3 ธนาคารจึงร่วมมือกับพันธมิตรนำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมาสร้างผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการทางการเงินของธุรกิจ เช่น การสนับสนุนการลงทุนบริษัทจีนที่ขยายธุรกิจในประเทศไทยและอาเซียน การทำ E2E Online Lending สำหรับลูกค้ารายย่อย การทำระบบชำระเงินข้ามประเทศ (cross-border payment and settlement) บริการด้านการลงทุน (Wealth Management) และธุรกิจประกัน ทั้งในประเทศจีน ประเทศไทย และในภูมิภาค ซึ่งสอดรับกับมาตรการยกเว้นการตรวจลงตราระหว่างกัน (Free Visa) จึงยิ่งเป็นโอกาสที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจชาวจีนที่มีแนวโน้มเข้ามาในไทยมากขึ้น ถือเป็นยุคสมัยแห่งการสานสัมพันธ์ของทั้งภาคธุรกิจและการแลกเปลี่ยนกันระหว่างบุคคลอีกด้วย

ปัจจุบันธนาคารกสิกรไทย (ประเทศจีน) เป็นธนาคารจากต่างชาติจากอาเซียนแห่งแรกที่มีสำนักงานใหญ่ที่เซินเจิ้น มีสินทรัพย์กว่า 100,000 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ยปีละ 30% มีลูกค้ารายย่อยกว่า 3 ล้านราย และมีสาขาใน 4 เมืองหลักในประเทศจีน ได้แก่ เซินเจิ้น ปักกิ่ง เซียงไฮ้ และเฉิงตู เพื่อให้ครอบคลุมเครือข่ายลูกค้าธุรกิจระหว่าง ไทย จีน และ AEC ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ธนาคารกสิกรไทยมีความแตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่น ตามแนวคิดการเป็น ธนาคารในระดับภูมิภาค

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

นายกฯ เชิญชวนประชาชนออกมาใช้ “คนละครึ่งพลัส”

นายกฯ เชิญชวนประชาชนออกมาใช้ “คนละครึ่งพลัส” ยัน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง บอก คนที่ตกหล่นได้รับสิทธิ์ในเฟส 2 แน่นอน

รองโฆษกรัฐบาล ลงพื้นที่สำรวจตลาด “คนละครึ่งพลัส”

รองโฆษกรัฐบาล ลงพื้นที่สำรวจตลาด “คนละครึ่งพลัส” อำเภอลำลูกกา วันแรก บรรยากาศคึกคัก คาดเงินสะพัดกว่า 8.8 หมื่นล้านบาท

“พิพัฒน์” เผย คมนาคมเปิดใช้สิทธิ “คนละครึ่งพลัส”

“พิพัฒน์” เผย คมนาคมเปิดใช้สิทธิ “คนละครึ่ง พลัส” รถ–ราง–เรือ–รถระหว่างจังหวัด ลดภาระค่าเดินทางประชาชน

โฆษกรัฐบาล ชวนใช้จ่าย “คนละครึ่งพลัส” เริ่มแล้ววันแรก

โฆษกรัฐบาล ชวนใช้ “คนละครึ่งพลัส”  29 ต.ค. - 31 ธ.ค. 68  เริ่มแล้วเวลา 06.00 น. - 23.00 น. เชื่อเป็นแรงกระตุ้นเศรษฐกิจไตรมาสสุดท้ายของปี