บมจ.ยูเอซี โกลบอล ปี 67 สดใสทั้งธุรกิจเทรดดิ้ง ปิโตเลียมเดิน

Date:

นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ยูเอซี โกลบอล หรือ UAC เปิดเผยว่า ในปี 2567 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนต่อเนื่อง ในธุรกิจดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน อาทิ ธุรกิจเทรดดิ้งมียอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่วนธุรกิจปิโตรเลียมมีการผลิตได้ตามแผนที่วางไว้ 300 BBL/Day ส่งผลให้การเติบโตของผลการดำเนินงานโดยเฉพาะรายได้คาดว่าจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 15% ต่อปี และมี EBITDA มากกว่า 20% ของรายได้

และในปีนี้ บมจ.ยูเอซี โกลบอล  จะมีโครงการที่จะทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น ได้แก่  โครงการโรงไฟฟ้าภูผาม่าน (PPM) ซึ่งหลังจากที่ได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ทั้งนี้บริษัทฯ เตรียมเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ในส่วนของหน่วย Generator#1 ซึ่งมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 1.5 เมกกะวัตต์ ภายในไตรมาส 1/2567 นี้ และส่วนของหน่วย Generator#2 มีกำลังการผลิต 1.5 เมกกะวัตต์ โดยคาดว่าจะดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในไตรมาส 2/2567

 โครงการ PT Cahaya Yasa Cipta (CYC) ซึ่งเป็นการลงทุนของบริษัท ยูเอซี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด(บริษัทย่อย) ในบริษัท PT Cahaya Cipta สัดส่วน 70% เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่าย RDF3 ในประเทศอินโดนีเซีย มีกำลังการผลิตประมาณ 40,000 ตัน/ปี  คาดว่าจะจำหน่ายให้กับโรงปูนซีเมนต์ในพื้นที่ใกล้เคียง ล่าสุดได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารแมสเปี้ยน (PT Bank Maspion Indonesia Tbk) ซึ่งเป็นธนาคารในกลุ่ม KBANK จำนวน 60,000,000,000 IDR เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนสำหรับโครงการก่อสร้างโรงงานผลิต RDF3 ของ CYC ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างและยื่นขอใบอนุญาตต่าง ๆ และคาดว่า จะดำเนินการก่อสร้างโรงงานพร้อมเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ไตรมาส 4/2567

สำหรับการลงทุนโครงการผลิตเชื้อเพลิงขยะ (RDF) นั้น ทาง UAC มองว่าเชื้อเพลิงขยะเป็นพลังงานหมุนเวียนที่นำขยะจากชุมชน (Municipal Solid Waste) มาเป็นเชื้อเพลิงซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าจากของเหลือทิ้ง ดังนั้นมองว่าการลงทุนโครงการโรงงานผลิต RDF3 ที่เมือง Sukabumi จะเป็นการต่อยอดธุรกิจในรูปแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) สอดรับกับการคำนึงถึงความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และ การกำกับดูแลกิจการ (ESG) ซึ่งเป็นหลักการในการวางรากฐานความยั่งยืนและเสริมสร้างความมั่นคงและผลตอบแทนให้กับบริษัทฯ ในระยะยาว โดยโรงงานผลิต RDF3 เป็นธุรกิจใหม่ที่ UAC เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่าย RDF3 ในประเทศอินโดนีเซีย ที่มีกำลังการผลิตประมาณ 40,000 ตัน/ปี โดยจำหน่ายให้กับโรงปูนซีเมนต์ PT Semen Jawa บริษัทในเครือ SCG

ส่วนการผลิตปิโตรเลียม ของแหล่งบูรพา (L11/43) และแหล่งอรุโณทัย (L10/43) มีการวางแผนติดตั้ง Beam Pump ที่แหล่งบูรพาเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตจำนวน 3 ชุด โดยติดตั้งแล้วเสร็จ จำนวน 1 ชุด ส่วน อีก 2 ชุด คาดว่าจะติดตั้งเสร็จภายในไตรมาส 1/2567 ซึ่งจะเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้ตามเป้า 300 BBL/D

ขณะที่ผลการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการเติบโตอย่างโดดเด่น โดยมีรายได้รวมแตะ 1,589.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 309.03 ล้านบาท (YoY) หรือ 24.13 % (YoY) และมีกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท และ EBITDA จำนวน 278.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 252.55 % (YoY)  และ 448.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84.94 % (YoY) ตามลำดับ อย่างไรก็ตามจากตัวเลขผลการดำเนินงานที่เติบโต อย่างโดดเด่นส่งผลให้คณะกรรมการบริษัทฯ ประกาศจ่ายเพิ่มเติมอีก 0.10 บาทต่อหุ้น ในวันที่ 29 เมษายนนี้

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ เติมความรู้พร้อมรับมือเหตุฉุกเฉิน

ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ เติมความรู้พร้อมรับมือเหตุฉุกเฉิน และแผนบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ

ธพส. เดินหน้า “Road to Sustainnovation” 

ธพส. เดินหน้า “Road to Sustainnovation” ยึด ESG ยกระดับบุคลากรขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน

21 ปี ธพส. นำองค์กรสู่ความยั่งยืน

21 ปี ธพส. “เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ” นำองค์กรสู่ความยั่งยืน

“ในหลวง-พระราชินี” เตรียมพระราชทานเหรียญกล้าหาญให้ทหาร

“ในหลวง-พระราชินี” เตรียมพระราชทานเหรียญกล้าหาญให้ทหาร-ตชด.-ทหารพราน ที่ปฏิบัติงานชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งรายบุคคลและหน่วย