นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บริษัทฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญของสถานการณ์การก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทย เนื่องจากประชากรผู้สูงวัยในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการสร้างสังคมที่ให้โอกาสแก่ผู้สูงอายุในการมีชีวิตที่ดีและมีความสุขเป็นสิ่งมีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง อาทิ การจัดกิจกรรมสำหรับผู้สูงอายุในพื้นที่ชุมชน เพื่อสร้างพื้นที่สังคมที่เข้มแข็งและสร้างความสุข รวมทั้งการส่งเสริมให้ครอบครัวมีการเตรียมความพร้อมและความรับผิดชอบในการดูแลผู้สูงวัย ในโครงการอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุ 18 ชั่วโมง (Care Giver) ที่มีการอบรมไปแล้ว 3 รุ่น
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ร่วมกับมูลนิธิเมืองไทยยิ้ม สานต่อโครงการแสงแก้ว ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 เป็นการผ่าตัดต้อกระจกเพื่อผู้สูงอายุที่ขาดแคลน สำหรับช่วยเหลือดูแลปัญหาดวงตาให้แก่ผู้สูงอายุ โดยได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือจาก กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทั้งนี้โครงการเปิดหน่วยคัดกรองโรคต้อกระจกเชิงรุก สำหรับกลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุในบ้านพักคนชราบางแค บ้านพักคนชราจังหวัดปทุมธานี และชุมชนใกล้เคียงเขตพื้นที่ภาษีเจริญ ยานนาวา หนองแขม พบผู้สูงวัยที่เป็นผู้ป่วยโรคต้อกระจก จำนวน 54 คน ซึ่งได้เข้ารับการรักษาผ่านการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์แก้วตาเทียมเป็นที่เรียบร้อย โดยคนไข้ทุกท่านได้รับการดูแลตรวจติดตามจากทีมจักษุแพทย์ และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้ว เป็นอย่างดีตลอดระยะเวลา 1 เดือน สามารถคืนการมองเห็นพร้อมสุขภาพดวงตาที่ดีให้ผู้สูงอายุทุกท่านที่เข้าร่วมโครงการฯ
โดยในโอกาสนี้ คณะผู้บริหารได้แก่นางพิตราภรณ์ บุณยรัตพันธุ์ รองประธานกรรมการมูลนิธิเมืองไทยยิ้มพร้อมด้วย นางสาวนิรัตน์ บูชาสุข รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และ นางสาวอนัญญา อัตชู ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค ร่วมกิจกรรมเพื่อสรุปผลการดำเนินของ “โครงการแสงแก้ว การคัดกรองและผ่าตัดโรคต้อกระจก เพื่อผู้สูงอายุ” และยังได้จัดกิจกรรมเพื่อสร้างความสุขและรอยยิ้มให้แก่ทุกคนอีกครั้ง
“การดำเนินโครงการแสงแก้วโดยมูลนิธิเมืองไทยยิ้ม เมืองไทยประกันชีวิต โรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้ว และ กรมกิจการผู้สูงอายุกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในครั้งนี้สำเร็จลุล่วงถือเป็นความร่วมมือในการรองรับสังคมผู้สูงอายุอย่างเป็นองค์รวมตลอดระยะ 8 ปีของโครงการแสงแก้วคืนการมองเห็นให้ผู้สูงอายุทั่วประเทศไทยไปแล้วรวม 683 ดวงตาและหวังให้ผู้สูงอายุทุกท่านมีความสุขในการมองเห็นมีสุขภาพแข็งแรงเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุที่ดีขึ้นต่อไป ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของบริษัทฯที่ต้องการขับเคลื่อนองค์กรด้วยการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติไม่ว่าจะเป็นมิติสิ่งแวดล้อม (Environment) มิติสังคม (Social) และมิติบรรษัทภิบาลและเศรษฐกิจ (Governance and Economic) หรือ ESG เพื่อสร้างความสุขและรอยยิ้มแก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายอย่างยั่งยืน” นายสาระกล่าวสรุป