Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the google-analytics-for-wordpress domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. Please see Debugging in WordPress for more information. (This message was added in version 6.7.0.) in /home/jaihin/domains/jaihindnews2.com/public_html/wp-includes/functions.php on line 6121

Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the td-cloud-library domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. โปรดดู การแก้ข้อผิดพลาดใน WordPress สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม (ข้อความนี้ถูกเพิ่มมาในรุ่น 6.7.0.) in /home/jaihin/domains/jaihindnews2.com/public_html/wp-includes/functions.php on line 6121
ลดเงินนำส่งกองทุนให้ 4 แบงก์รัฐ อีก 1 ปี - jaihindnews2

ลดเงินนำส่งกองทุนให้ 4 แบงก์รัฐ อีก 1 ปี

Date:

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 เห็นชอบการขยายระยะเวลาปรับลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (กองทุนฯ) ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 4 แห่งที่มีหน้าที่นำส่งเงินเข้ากองทุนฯ ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ลงกึ่งหนึ่งจาก 0.25% ต่อปี เป็น 0.125% ต่อปีของยอดเงินที่ได้รับจากประชาชน ของรอบการนำส่งเงินในปี 2567 ซึ่งเป็นการปรับลดต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เพื่อช่วยลดต้นทุนให้กับสถาบันการเงินเฉพาะกิจส่งผ่านการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ลูกหนี้ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ โดยเฉพาะลูกหนี้กลุ่มเปราะบาง กลุ่มเศรษฐกิจฐานราก รวมถึงลูกหนี้นอกระบบ เพื่อให้โอกาสลูกหนี้ในการฟื้นตัวและกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติได้มากขึ้น

ผู้อำนวยการ สศค.กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงการคลังได้สั่งการให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจทั้ง 4 แห่งจัดทำมาตรการหรือโครงการเพื่อช่วยเหลือและผ่อนปรนภาระให้กับลูกหนี้ตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาให้กับลูกหนี้อย่างยั่งยืน โดยคาดว่าจะมีลูกหนี้ได้รับประโยชน์จากการช่วยเหลือในช่วงเดือนมกราคม – ธันวาคม 2567 ประมาณ 5.04 ล้านบัญชี คิดเป็นวงเงินสินเชื่อรวม 1.18 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ กระทรวงการคลังและสถาบันการเงินเฉพาะกิจได้ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับลูกหนี้ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตลูกหนี้และยกระดับเศรษฐกิจฐานรากต่อไป

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

ลุ้นเจรจาสหรัฐขึ้นภาษีไทย ทีมไทยแลนด์ เร่ขายของเก่า

ทีมไทยแลนด์ลุ้นเจรจาสหรัฐขึ้นภาษีไทย เร่งรวบรวมของเก่าให้สหรัฐพิจารณาเห็นใจโอเคในหลักการ

เวทีโลกชื่นชม นายกฯ แพทองธาร

เวทีโลกชื่นชม นายกฯ แพทองธาร ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้นำโลกอายุต่ำกว่า 40

กสิกรไทย รับรางวัลโครงการด้านการเงินสีเขียวยอดเยี่ยม

กสิกรไทย รับรางวัลโครงการด้านการเงินสีเขียวยอดเยี่ยมแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จาก The Asian Banker

 เมืองไทยประกันชีวิต ออกแคมเปญ “ShieldLife”

เมืองไทยประกันชีวิต ออกแคมเปญ “ShieldLife”  ช่วยรับมือความเสี่ยงให้ “เบาใจ” ได้มากขึ้น พร้อมได้ “ณเดชน์ คูกิมิยะ” เป็นตัวแทนคนยุคนี้