นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” ระบุว่า
วงจรอุบาทว์ คือ รัฐประหาร กับนักการเมืองซื้อเสียง เพื่อเป็นรัฐบาลแล้วโกง
ถ้าใครติดตามข่าวการฟอร์มคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดอิ๊งค์1 ของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร จะเห็นข่าวการวิ่งเต้น ต่อรองตำแหน่ง เพื่อเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคการเมือง และนักการเมืองกันมากมาย มีการแย่งชิงไหวชิงพริบกันเพื่อเข้าร่วมรัฐบาล ชิงการนำกันภายในพรรค ต่อรองเรื่องโควต้ารัฐมนตรี ว่าจะได้กี่ตำแหน่ง จะได้กระทรวงอะไรบ้าง และจะส่งใครเข้าไปเป็นรัฐมนตรีบ้าง เป็นเรื่องผลประโยชน์ของนักการเมืองและพรรคการเมืองล้วนๆ ไม่มีผลประโยชน์ของประชาชนอยู่ในสมการนี้เลย
จะเห็นได้ว่าไม่มีพรรคการเมืองใด พูดคุยเรื่องการร่วมรัฐบาล โดยยกเอานโยบายที่ใช้ในการหาเสียงมาต่อรอง เพื่อเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลเลย ไม่มีการพูดถึงนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต นโยบายกัญชา หรือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะทำกันอย่างไร
การเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคการเมืองแต่ละพรรค ไม่ได้ยึดเอาจุดยืนทางการเมืองหรืออุดมการณ์เดียวกัน เพื่อเข้าร่วมรัฐบาลเลย ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมือง ที่มีอุดมการณ์แตกต่างกัน อยู่คนละขั้ว ต่อสู้กันทางการเมืองมาก่อนอย่างไร ไม่สำคัญ แต่ก็มาจับมือกันเป็นรัฐบาล เพราะสมประโยชน์ทางการเมืองกัน จะมาทั้งพรรค ครึ่งพรรค หรือค่อนพรรค ก็ไม่แคร์ ว่าไปตามจำนวนส.ส.กับโควต้ารัฐมนตรี เมื่อส่งชื่อคนที่มาเป็นรัฐมนตรี ตรวจสอบแล้วไม่ผ่านเรื่องจริยธรรม ก็มีตัวแทนเป็นพี่ เป็นน้อง เป็นญาติคนสนิท มารับตำแหน่งแทน เป็นการฮั้วประโยชน์ทางการเมืองอย่างชัดเจน
พรรคการเมืองทุกพรรคหวังจะเข้าร่วมรัฐบาล นักการเมืองที่ยืนแถลงข่าวกันหน้าสลอน ล้วนแต่มาจากการซื้อเสียงทั้งสิ้น จึงทำทุกวิถีทางเพื่อเข้าร่วมรัฐบาลให้ได้ อยากไปเป็นรัฐมนตรี คุมกระทรวง ถอนทุนคืน สะสมทุนเพื่อใช้ซื้อเสียงในการเลือกตั้งครั้งต่อไป แล้วค่อยเข้ามาเป็นรัฐบาล แล้วถอนทุนคืนอีก เป็นวัฏจักรหรือวงจรอุบาทว์ของการเมืองไทยควบคู่กับการรัฐประหาร ซึ่งเป็นวงจรอุบาทว์ของประเทศไทยเช่นกัน
จึงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมการเมืองไทยติดล่มอยู่อย่างนี้ ไม่มีความก้าวหน้า เพราะเป็นวงจรอุบาทว์ควบคู่กันระหว่างการรัฐประหารของคณะนายทหาร กับนักการเมืองซื้อเสียง โกงกินอยู่คู่กัน เพราะมีความเลวไม่แตกต่างกัน