ร่อนหนังสือถึงอึ๊งค์ ฉบับที่ 5 เตือน กองทุนวายุภักษ์ เสี่ยงผิดกฎหมาย

Date:

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง ประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟสบุ๊ก “Thirachai Phuvanatnaranubala – – ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล” ระบุว่า 

จดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีเรื่องกองทุนวายุภักษ์ (ฉบับที่ ๕)

ด่วนที่สุด 

วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๗

เรื่อง  กองทุนรวมวายุภักษ์ ๑ อาจจะฝ่าฝืนกฎหมาย (ฉบับที่ ๕)

เรียน  นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี 

อ้างถึง หนังสือชี้ชวนกองทุนรวมวายุภักษ์ ๑

 ตามที่ข้าพเจ้าได้มีหนังสือฉบับลงวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๖๗ (ฉบับที่ ๑) และฉบับลงวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๗ (ฉบับที่ ๒) ฉบับลงวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๗ (ฉบับที่ ๓) และฉบับลงวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๗ (ฉบับที่ ๔) กรณีกระทรวงการคลังประกาศเปิดให้ประชาชนทั่วไปจองซื้อกองทุนรวมวายุภักษ์ ๑ (กองทุนฯ) วงเงิน ๑.๕ แสนล้านบาท ในวันที่ ๑๖-๒๐ กันยายนนี้ และให้นักลงทุนสถาบันจองซื้อในวันที่ ๑๘-๒๐ กันยายนนี้ ซึ่งข้าพเจ้ามีความเห็นว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวอาจจะฝ่าฝืนกฎหมาย นั้น 

ข้าพเจ้าขอเรียนข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าจะเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาของท่านในเรื่องนี้ ดังนี้

๑.   รายละเอียดเกี่ยวกับนักลงทุนสถาบัน

ในวงเงินที่เชิญให้จองซื้อหน่วยลงทุนประเภท ก. ๑๕๐,๐๐๐ ล้านบาทนั้น หนังสือชี้ชวนหน้า ๑๗ ระบุว่าแบ่งเป็นผู้ลงทุนรายย่อย ๓๐,๐๐๐-๕๐,๐๐๐ ล้านบาท ผู้ลงทุนสถาบันและนิติบุคคลเฉพาะกลุ่ม ๑๐๐,๐๐๐-๑๒๐,๐๐๐ ล้านบาท 

โดยในหน้า ๑๓ ผู้ลงทุนรายย่อย หมายถึงบุคคลธรรมดาสัญชาติไทยที่มีถิ่นที่อยู่ในไทย หรือนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย รวมถึงกองทุนส่วนบุคคลของผู้ลงทุนรายย่อยดังกล่าว  

ส่วนผู้ลงทุนสถาบันหมายถึง 

(ก) ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น สหกรณ์ออมทรัพย์หรือชุมนุมสหกรณ์ มูลนิธิเพื่อสาธารณะประโยชน์ สภากาชาดไทย มหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษา กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริษัทประกันวินาศภัย บริษัทประกันชีวิต กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนประกันสังคม กองทุนการออมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) และกองทุนสวัสดิการของสำนักงาน คปภ. 

(ข) ผู้ลงทุนสถาบันที่มีลักษณะตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง และเป็นไปตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหน่วยลงทุน และ

(ค) กองทุนส่วนบุคคลของผู้ลงทุนตามข้อ (ก) หรือ (ข)

๒.   ประเด็นที่ควรพิจารณาเกี่ยวกับผู้ลงทุนสถาบัน

ข้าพเจ้าขอเรียนว่า คำว่า “เงินแผ่นดิน” ปรากฏในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ ๓ – ๔/ ๒๕๕๗ คดีที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเสนอร่างพระราชบัญญัติจะกู้เงิน ๒ ล้านล้านบาทเพื่อใช้นอกระบบงบประมาณ ปรากฏในราชกิจจานุเบกษา วันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๗ หน้า ๓๗ ซึ่งสรุปได้ว่า

“เงินแผ่นดิน” หมายถึง เงินของประชาชนทั้งชาติโดยหมายความรวมถึงบรรดาเงินทั้งปวง ทรัพย์สิน สิทธิ และผลประโยชน์ ที่รัฐเป็นเจ้าของหรืออยู่ในความครอบครองของรัฐ

ดังนั้น ในกองทุนฯ กำไรสะสมที่มีอยู่ขณะนี้ ๑๔๒,๗๓๘.๗๔ ล้านบาท และทรัพย์สินที่มีอยู่ขณะนี้ ๓๕๓,๕๙๖ ล้านบาท ในส่วนที่เป็นกรรมสิทธิ์ของกระทรวงการคลังนั้น เป็น “เงินแผ่นดิน” 

ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๑๔๐ บัญญัติให้การจ่ายเงินแผ่นดินจะทำได้เฉพาะตามกฎหมายงบประมาณหรือกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลัง แต่เท่าที่ข้าพเจ้าตรวจสอบ ไม่พบมีการดำเนินการดังกล่าว และข้าพเจ้าเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังชี้แจงหลายครั้งแต่ไม่ได้มีการชี้แจง

ทั้งนี้ ข้าพเจ้าได้แจ้งต่อท่านไว้แล้วในหนังสือ ๔ ฉบับก่อนหน้าว่ากติกาและเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังกำหนดนั้น จะเป็นการนำเงินแผ่นดินในรูปกำไรสะสม ๑๔๒,๗๓๘.๗๔ ล้านบาท และทรัพย์สิน ๓๕๓,๕๙๖ ล้านบาทไปจ่ายอุดหนุนให้แก่ผู้ถือหน่วยประเภท ก. ซึ่งสร้างความไม่เป็นธรรมในสังคมเพราะเป็นการเอาทรัพย์สินของแผ่นดินซึ่งเป็นคนทั้งชาติ ไปจ่ายให้แก่ผู้ลงทุนซึ่งเป็นคนกลุ่มเดียว

แต่ปัญหาความไม่เป็นธรรมนี้ มีความรุนแรงขึ้นในกรณีผู้ลงทุนสถาบัน ด้วยเหตุผลดังนี้

(๑) ธนาคารพาณิชย์ บริษัทประกันวินาศภัย บริษัทประกันชีวิต และกองทุนส่วนบุคคลของผู้ลงทุนเหล่านี้ ล้วนเป็นผู้ที่มีฐานะดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีโครงการที่กระทรวงการคลังต้องจ่ายเงินแผ่นดินไปเพิ่มผลตอบแทนและประกันเงินต้นแก่ผู้ที่ร่ำรวย

(๒) ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น สหกรณ์ออมทรัพย์หรือชุมนุมสหกรณ์ มูลนิธิเพื่อสาธารณะประโยชน์ สภากาชาดไทย มหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษา กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริษัทประกันวินาศภัย บริษัทประกันชีวิต กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนประกันสังคม กองทุนการออมแห่งชาติ สำนักงาน คปภ. กองทุนสวัสดิการของสำนักงาน คปภ. และกองทุนส่วนบุคคลของผู้ลงทุนเหล่านี้ 

บุคคลเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในด้านการเงินมากพอที่จะพิจารณาเลือกความเสี่ยงในการลงทุนได้เอง โดยไม่จำเป็นต้องมีโครงการประกันผลตอบแทนและประกันเงินต้น และไม่ต้องทำโครงการที่บริษัทหลักทรัพย์ทำได้เองอยู่แล้ว

(๓) การลงทุนโดยมูลนิธิเพื่อสาธารณะประโยชน์ สภากาชาดไทย มหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษา กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนประกันสังคม กองทุนการออมแห่งชาติ สำนักงาน คปภ. และกองทุนสวัสดิการของสำนักงาน คปภ. รวมไปถึงกองทุนรวมทั้งหลายซึ่งถือเป็นผู้ลงทุนสถาบันตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน นั้น 

ล้วนมีการจ้างผู้จัดการกองทุนให้ทำหน้าที่บริหารการลงทุนโดยให้ค่าจ้างตามอัตราตลาด ซึ่งผู้จัดการกองทุนย่อมเป็นผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจที่จะพิจารณาเลือกความเสี่ยงในการลงทุนได้เอง โดยไม่จำเป็นต้องมีโครงการประกันผลตอบแทนและประกันเงินต้น 

ดังนั้น โครงการนี้จึงกลับมีผลเป็นการจัดสรรแจกจ่ายผลประโยชน์ให้แก่ผู้จัดการกองทุนโดยไม่ต้องออกแรงทำงาน 

(๔) สำหรับมูลนิธิเพื่อสาธารณะประโยชน์ สภากาชาดไทย มหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษา กรณีที่รัฐบาลประสงค์จะอุดหนุนแก่องค์กรที่ทำประโยชน์ให้แก่สังคมนั้น ก็ควรจัดทำงบประมาณให้เงินสนับสนุนอย่างตรงไปตรงมา

ข้าพเจ้ารับทราบว่าล่าสุดจะมีการแบ่งสรรวงเงินจองให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน ๑๒๐,๐๐๐ ล้านบาท จึงเข้าข่ายเป็นการเอาเงินแผ่นดินของคนไทยทั้งชาติไปอุดหนุนเพิ่มพูนประโยชน์ให้แก่กลุ่มคนที่มีฐานะดีร่ำรวยอยู่แล้ว และเป็นกลุ่มที่มีความรู้ความเข้าใจตลาดเงินตลาดทุนเป็นอย่างดีไม่จำเป็นที่กระทรวงการคลังจะต้องโปรโมทโครงการจูงใจที่บิดเบือนความเสี่ยงของตลาด และเป็นการอุดหนุนเพิ่มผลงานให้แก่ผู้จัดการกองทุนทั้งหลายโดยใช้ทรัพย์สินของแผ่นดิน

๓.   ขอให้แถลงจุดยืนของรัฐบาล

เนื่องจากกระทรวงการคลังได้นำเรื่องนี้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดก่อน ข้าพเจ้าจึงเรียกร้องให้ท่านโปรดพิจารณา และโปรดแถลงให้ประชาชนทราบว่า 

รัฐบาลของท่านสนับสนุนโครงการที่จ่ายเงินแผ่นดินที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและการดำเนินการที่ขัดกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอันเป็นการปฏิบัติไม่สอดคล้องตามมาตรฐานจริยธรรม หรือไม่ 

และสนับสนุนการนำเอาทรัพย์สินของแผ่นดินไปอุดหนุนแก่กลุ่มคนที่มีฐานะดีของประเทศอยู่แล้ว หรือไม่

จึงขอให้ท่านโปรดพิจารณาว่าการกระทำที่เกี่ยวข้องถูกต้องตามกฎหมายและหลักธรรมาภิบาลหรือไม่

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา 

ขอแสดงความนับถืออย่างสูง

(นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล)

อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

การบินไทย กำไรไตรมาส 13,661 ล้านบาท

การบินไทย กำไรไตรมาส 13,661 ล้านบาท สะท้อนเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง เดินหน้าออกจากการฟื้นฟูกิจการ พร้อมกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์

เวียตเจ็ท กำไรไตรมาสแรกทะลุ 2 หมื่นล้านบาท

เวียตเจ็ท กำไรไตรมาสแรกทะลุ 2 หมื่นล้านบาท เดินหน้าขยายเส้นทาง-จับมือพันธมิตรระดับโลก เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการบินภูมิภาค

อลิอันซ์ อยุธยา รุกตลาดกลุ่มมั่งคั่ง เปิดตัว “My Style Legacy ULTRA”

อลิอันซ์ อยุธยา เดินหน้ารุกตลาดกลุ่มมั่งคั่ง เปิดตัว “My Style Legacy ULTRA” ประกันชีวิตควบการลงทุนเจาะลูกค้าไฮเน็ตเวิร์ธโดยเฉพาะ

ผู้ว่าแบงก์ชาติ ชี้เศรษฐกิจไทยเจอพายุหนักลากยาว

ผู้ว่าแบงก์ชาติ ชี้เศรษฐกิจไทยเจอพายุหนักลากยาว เชื่อนโยบายดอกเบี้ยรับพิษภาษีทรัมป์ไหว ชมรัฐบาลทบทวนแจกเงิน