นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” ระบุว่า
ไอ้เสือถอย!!!
ผมเคยแสดงความเห็นไว้เมื่อ 2 วันก่อน ในเพจเทพไท เสนพงศ์ว่า ไม่ควรที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราคู่ขนานไปกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ และถ้าหากพรรคเพื่อไทยมีความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยจริง ตามที่เคยประกาศไว้สมัยเป็นฝ่ายค้าน ก็ต้องรีบเร่งผลักดัน ให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างจริงจังโดยเร็ว ไม่ใช่มัวแต่ซื้อเวลาไปเรื่อยๆ หวังที่จะให้นำเอาวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นตัวประกันวาระอายุของรัฐบาล ต้องการอยู่ให้ครบวาระ 4 ปีจน ตอนนี้วาระของรัฐบาลก็ผ่านมาแล้วหนึ่งปี ถ้ามัวแต่เงื้อง่าราคาแพง ก็จะไม่ทันในวาระของรัฐบาลชุดนี้แน่ๆ
ผมเห็นด้วยกับการที่ประชุม ส.ส. พรรคเพื่อไทย ได้มีมติถอยเรื่องวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราออกไป เพราะไม่มีประโยชน์อันใดที่จะทำ 2 เรื่องไปพร้อมกัน ทำให้เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ ควรจะตั้งหน้าตั้งตาเริ่มต้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเร่งทำประชามติสอบถามความเห็นของประชาชน และเลือกตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยปราศจากเงื่อนไข ขอให้ สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง เป็นคนกำหนดกรอบ เงื่อนไข และเนื้อหาของรัฐธรรมนูญทั้งหมด เพราะเป็นผู้ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง จะทำให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ยึดโยงกับประชาชน เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง
ถ้าหากพรรคเพื่อไทยยังดึงดันที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นประมวลจริยธรรมของนักการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อาจจะนำมาสู่ความขัดแย้งของสังคมอีกครั้งหนึ่ง และจะเป็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ สมัยออกพรบ.นิรโทษกรรมแบบสุดซอย หรือเหมาเข่ง เพื่อต้องการล้างผิดให้คนโกง
ถ้าจับกระแสท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาล มีหลายพรรคออกแสดงความไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขประเด็นประมวลจริยธรรมนักการเมือง ไม่กล้าฝืนกระแสสังคมไปได้ ทุกพรรคต่างก็เป็นนกรู้ กลัวเสียความนิยมไป พรรคเพื่อไทยก็ไม่อยากตายเดี่ยว จึงตัดสินใจถอยดีกว่า ไม่เอาดีกว่า
ผมคิดว่าพรรคเพื่อไทยตัดสินใจถูก ที่ยอมใส่เกียร์ถอยเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ ไม่งั้นจะกลายเป็นไอ้หวังตายแน่ ตายแน่ไอ้หวัง