TMI โชว์กำไร Q2/65 พุ่ง 1,620%

Date:

นายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร กรรมการผู้จัดการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMI เปิดเผยผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2 ปี 2565 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 6.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.67 ล้านบาท หรือ 1,620% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 7.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.20 ล้านบาท หรือ 658.91% โดยมีรายได้จากการขายรวม 135.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.84 ล้านบาท หรือ 16.17%

ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 122.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.85 ล้านบาท หรือ 15.96% จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น สินค้าประหยัดพลังงาน ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า ส่งผลให้ยอดขายโดยรวมเพิ่มขึ้น

ส่วนรายได้จากการขายไฟฟ้าในไตรมาสนี้ อยู่ที่ 12.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.99 ล้านบาท หรือ 18.16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จากการขายไฟฟ้าอยู่ที่ 10.96 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ยังคงรับรู้รายได้เฉพาะโรงไฟฟ้าที่จำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ในโครงการโรงไฟฟ้าชีวภาพ จังหวัดสมุทรสาคร และโรงไฟฟ้าชีวภาพ จังหวัดชุมพร ที่มีกำลังการผลิตรวม 2.4 เมกะวัตต์ ในส่วนของโรงไฟฟ้าชีวภาพแห่งที่ 3 กำลังการผลิต 3 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดสุพรรณบุรี คาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ในไตรมาส 3 นี้

สำหรับต้นทุนขายรวมของบริษัทฯ อยู่ที่ 89.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.5 ล้านบาท หรือ 14.73% จากปัจจัยยอดขายสินค้าที่เพิ่มขึ้นและราคาต้นทุนสินค้าที่ถีบตัวสูงขึ้น อีกทั้งต้นทุนขายไฟฟ้ามีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ต้นทุนขายรวมเพิ่มขึ้น และมีต้นทุนในการจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 17.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.16 ล้านบาท หรือ 0.93% เนื่องจากค่าคอมมิชชั่นที่สูงขึ้นตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น ด้านค่าใช้จ่ายในการบริหารฯ ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 17.28 ล้านบาท ลดลง 1.74 ล้านบาท หรือ 9.14% จากหนี้สงสัยจะสูญลดลง

“ในไตรมาส 2 ของปีนี้ บริษัทฯ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยหลักยังคงมาจากการออกผลิตภัณฑ์สินค้าใหม่ๆ ซึ่งมีคุณสมบัติและโปรโมชั่นที่โดนใจลูกค้า นอกเหนือจากรายได้ในส่วนของโรงไฟฟ้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถเดินเครื่องโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพแห่งที่ 3 ขนาดกำลังผลิต 3 เมกะวัตต์ เพื่อผลิตไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในไตรมาส 3 นี้ ซึ่งเมื่อรวมกับโรงไฟฟ้าเดิมและโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ ทำให้โรงไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง มีกำลังการผลิตรวม 5.4 เมกะวัตต์ ส่งผลให้รายได้จากส่วนดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นต่อไปในอนาคต ” นายธีระชัย กล่าว

นายธีระชัย กล่าวอีกว่า การดำเนินธุรกิจหลังจากนี้ บริษัทฯ วางเป้าหมายขยายการลงทุนเชิงรุกในอุตสาหกรรมโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำอุตสาหกรรมในอนาคต โดยเฉพาะธุรกิจโรงไฟฟ้าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น หลังจากโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพแห่งที่ 3 เริ่มจำหน่ายกระแสไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 3 นี้ โดยประเมินว่าจะใช้ระยะเวลาคืนทุนไม่เกิน 8 ปี ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานของบริษัทอย่างสม่ำเสมอ โดยโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพดังกล่าวได้รับการออกแบบและก่อสร้างตามมาตรฐานสากลในรูปแบบ “ขยะเหลือศูนย์ (Zero Waste)” ซึ่งเป็นแนวทางในการลดการเกิดขยะตั้งแต่ต้นทางและทำให้ขยะที่ต้องนำไปกำจัดให้ลดเหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้หรือจนเป็นศูนย์ โดยใช้เทคโนโลยีที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน รวมถึงธุรกิจคาร์บอนเครดิตที่เป็นอีกหนึ่งในกลไกสำคัญที่จะช่วยลดก๊าซเรือนกระจก เพื่อแก้ปัญหาโลกร้อนได้ นับได้ว่าเป็นโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพต้นแบบแห่งแรกของบริษัทฯ

Share post:

spot_img

Related articles

อุ๊งอิ๊งค์ วันแรก ก็โดนเสียแล้ว

อุ๊งอิ๊งค์ วันแรก ก็โดนเสียแล้ว “อาปู กับ หลานอิ๊งค์ แตกต่างกันอย่างไร”

แนะรัฐบาลขึ้นภาษี VAT พาเศรษฐกิจพ้นหายนะ 

อดีต รมว.คลัง แนะรัฐบาลใหม่ขึ้นภาษี VAT เพิ่มรายได้ประเทศแสนล้าน พาเศรษฐกิจพ้นหายนะ

ครม.สืบสันดาน ถูกต้องเหมาะสมแล้ว

“นายเทพไท เสนพงศ์” บอก ครม.สืบสันดาน ถูกต้องเหมาะสมแล้ว

รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง จะรอดข้ามปีมั้ย???

“นายเทพไท เสนพงศ์” ตั้งข้อสังเกต รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง จะรอดข้ามปีมั้ย???

Notice: ob_end_flush(): Failed to send buffer of zlib output compression (0) in /home/ozapeumy/public_html/wp-includes/functions.php on line 5427