บลจ.กสิกรไทย แนะกลยุทธ์ลงทุนสั้น 3 เดือน ยาว 3-5 ปี

Date:

นายวิน พรหมแพทย์, CFA, ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย ยังคงดำเนินงานตามแผนภายใต้แนวคิด Top of Mind Investment House โดยยึดหลัก 1 Goal 3 Focus 5 Priorities อย่างต่อเนื่อง ให้ความสำคัญกับการวางรากฐานใน 5 ด้าน ได้แก่ 1) มุ่งสร้างผลตอบแทน จากการบริหารจัดการกองทุนให้ได้ผลตอบแทนที่โดดเด่นอย่างสม่ำเสมอ 2) มุ่งสร้างประสิทธิภาพของพอร์ต จากการจัดพอร์ตแบบ Core & Satellite Portfolio 3) มุ่งสร้างความน่าเชื่อถือ จากการให้คำแนะนำการลงทุนที่ทันต่อเหตุการณ์อย่างตรงไปตรงมา 4) มุ่งสร้างเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มลูกค้า จากการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม และ 5) มุ่งสร้างความเชี่ยวชาญ จากการให้มุมมองการลงทุนเชิงลึกภายใต้ชื่อ Know The Markets โดยรากฐานทั้งหมดจะมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การพัฒนาขีดความสามารถในการบริหารสินทรัพย์ทั่วโลก การวางโครงสร้างการลงทุนอย่างยั่งยืน และการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าและคู่ค้า เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย 1.80 ล้านล้านบาทในช่วงโค้งสุดท้ายปี 2567

นายวิน กล่าวว่า สำหรับทิศทางการพัฒนาเพื่อการแข่งขัน บลจ.กสิกรไทย เตรียมพัฒนาโซลูชันการลงทุนกับ 2 พันธมิตรทางธุรกิจชั้นนำระดับโลกทั้ง J.P. Morgan Asset Management ในฐานะ Strategic Partnership ที่มุ่งเน้นการพัฒนาขีดความสามารถในการคัดเลือกและจัดสรรสินทรัพย์ทั่วโลก กับอีก 1 พันธมิตรที่ปรึกษาด้านความยั่งยืน Lombard Odier ที่มุ่งเน้นการกำหนดยุทธศาสตร์ในการวางโครงสร้างการลงทุนอย่างยั่งยืน ซึ่งจะช่วยเติมเต็มศักยภาพการบริหารจัดการกองทุน และยกระดับมาตรฐานการทำงานในทุกมิติ

“ภาพรวมเศรษฐกิจโลกกลับเข้าสู่สมดุลมากขึ้น การเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ มีแนวโน้มดีขึ้นในปีหน้า ด้านธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ลดดอกเบี้ยลง 0.5% เปิดโอกาสให้ธนาคารกลางประเทศอื่นๆ ปรับลดดอกเบี้ยตามไปด้วย สำหรับตลาดหุ้นจีน การลดดอกเบี้ย และมาตรการภาคอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ที่ประกาศออกมา ทำให้ตลาดหุ้นจีนฟื้นได้ในระยะสั้น และคาดว่าจะมีมาตรการด้านการคลังออกมาเพิ่มขึ้นในระยะถัดไป ด้านเศรษฐกิจอินเดียมีแรงขับเคลื่อนหลักจากการบริโภคในประเทศ บริษัทในอินเดียมีความสามารถในการทำกำไรสูง ด้านตลาดหุ้นเวียดนาม ยังคงดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติอย่างต่อเนื่อง การเติบโตของสินเชื่อธุรกิจและการบริโภคที่เพิ่มขึ้น หนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการส่งออก ด้านตลาดทองคำ ในช่วงที่ผ่านมาราคาปรับตัวขึ้นค่อนข้างมาก ทั้งจากความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นในช่วงเข้าใกล้การเลือกตั้ง และวัฏจักรที่ Fed ลดดอกเบี้ย บลจ.กสิกรไทย ยังคงแนะนำให้เข้าสะสมทองคำหากมีจังหวะย่อเท่านั้น

สำหรับตลาดหุ้นไทย ยังคงมีมุมมองเชิงบวกจากการประเมินมูลค่าหุ้น (Valuation) ซึ่งอยู่ในระดับที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับในอดีต ประกอบกับเม็ดเงินใหม่ ที่จะเข้าสู่ตลาดหุ้นจากการตั้งกองทุนวายุภักษ์ แนวโน้มเศรษฐกิจไทยคาดว่าจะฟื้นตัวได้จากการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาล และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีซึ่งเป็น High Season มองเป้าหมายดัชนีปลายปี 2024 ที่ระดับ 1,450-1,500 จุด และปี 2025 ที่ระดับ 1,600 จุด” คุณวินกล่าว

นายวิน กล่าวว่า บลจ.กสิกรไทย แนะนำให้ผู้ลงทุนจัดพอร์ตแบบกระจายความเสี่ยงตามหลักการ Core & Satellite Portfolio ผ่านกองทุนแนะนำจากกสิกรไทย ทั้งนี้ สำหรับ Core & Satellite Portfolio ประจำไตรมาสที่ 4/2567 จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1: Core Portfolio เน้นลงทุนระยะยาวแบบ Asset Allocation ประมาณ 80% ของพอร์ต โดยแนะนำกองทุน K-WPBALANCED, K-WPSPEEDUP, K-WPULTIMATE ส่วนที่ 2: Satellite Portfolio เน้นลงทุนระยะสั้นแบบจับจังหวะตลาด (Market Timing) ประมาณ 20% ของพอร์ต โดยแนะนำกองทุน K-FIXEDPLUS, K-GSELECT, K-INDIA, K-VIETNAM, K-STAR และ K-PROPI

สำหรับระยะเวลาการถือครองหน่วยลงทุนของกองทุนใน Core Portfolio บลจ.กสิกรไทย แนะนำให้เป็นการลงทุนระยะยาว 3-5 ปี ส่วนกองทุนใน Satellite Portfolio แนะนำให้เป็นการลงทุนระยะสั้นอย่างน้อย 3 เดือน เพื่อรอประเมินสถานการณ์ตลาดในระยะถัดไป

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

พนักงาน TIP Smart Assist โดยทิพยฯประกันภัย รับประกาศนียบัตร

พนักงาน TIP Smart Assist โดย ทิพยประกันภัย เข้ารับมอบประกาศนียบัตร “พระเกี้ยวธรรมจักร” ด้านการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ประจำปี 2568

ทิพยประกันภัย ร่วมฉลอง Pride Month

ทิพยประกันภัย ร่วมฉลอง Pride Month ด้วยแคมเปญ “PRIDE IS YOURS” เพราะทุกตัวตนควรได้รับการดูแลอย่างเข้าใจ

ถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระบรมราชินี

ถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี

เรียนรู้วิถี โครงการตามรอยพระราชา 

เรียนรู้วิถี "อยู่ร่วมกับป่า" ที่เขาใหญ่ กับ โครงการตามรอยพระราชาครั้งที่ 52