Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the wordpress-seo domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. Please see Debugging in WordPress for more information. (This message was added in version 6.7.0.) in /home/ozapeumy/public_html/wp-includes/functions.php on line 6114
สำรวจเทรนด์อาหารเครื่องดื่มยอดนิยมแห่งปี 2568 - jaihindnews2

สำรวจเทรนด์อาหารเครื่องดื่มยอดนิยมแห่งปี 2568

Date:

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อํานวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สนค. ได้ติดตามสถานการณ์แนวโน้มของสินค้าอาหารและเครื่องดื่มปี 2568 เพื่อชี้ช่องทางและสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสามารถปรับตัวให้สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดโลก 

FoodNavigator สำนักข่าวออนไลน์ชั้นนำสำหรับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เผยแพร่บทความ เรื่อง “แนวโน้มอาหารและเครื่องดื่มแห่งปี 2568 (ค.ศ. 2025) ” พบว่า ผู้บริโภคมีแนวคิดใน        การเลือกอาหารและเครื่องดื่มที่เปลี่ยนแปลงไป โดยจะผสมผสานระหว่างสุขภาพและความพึงพอใจ นอกจากนี้     ยังเปิดใจรับอาหารจากแหล่งใหม่ ๆ อาหารที่ผ่านการใช้เทคโนโลยีการเกษตร (Ag-Tech) รวมถึงอาหาร ดัดแปรพันธุกรรม (GMOs) รวมทั้งมีความเข้าใจและยอมรับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพิ่มขึ้น  จึงยอมรับในวัตถุดิบและรสชาติอาหารจากแหล่งใหม่ ๆ ทั้งจากท้องถิ่นและทั่วโลก สรุปเป็น 4 เทรนด์สำคัญ ดังนี้

1) ให้ความสำคัญกับคุณค่าทางโภชนาการ ผู้บริโภคจะคำนึงถึงประโยชน์ด้านสุขภาพและคุณค่าโภชนาการก่อนจะพิจารณาว่าอาหารดังกล่าวมีการแปรรูปมากเกินไปหรือไม่ (Ultra-processed Food) โดยคำนึงถึงสารอาหารเป็นหัวใจสำคัญ ดังนั้น ผู้ผลิตควรให้ข้อมูลโภชนาการที่เข้าใจง่ายเพื่อตอบสนองเทรนด์นี้ ตัวอย่างพฤติกรรมผู้บริโภค อาทิ ผู้บริโภคบราซิล 83% ต้องการอิ่มนานขึ้น ผู้บริโภคอินโดนีเซีย 67% ต้องการทดลองอาหารเพื่อสุขภาพเฉพาะบุคคล ผู้บริโภคจีน 64% ใช้โซเชียลมีเดียในการหาข้อมูลความรู้ด้านสุขภาพ ผู้บริโภคอินเดีย 52% ควบคุมอาหารและออกกำลังกายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และผู้บริโภคไทย 33% จะใช้จ่ายกับอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น

2) เน้นความพึงพอใจควบคู่กับสุขภาพที่ดี ความพึงพอใจของผู้บริโภคมีความหมายแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล บางคนอาจหมายถึงความสะดวกสบาย การได้ลิ้มรสอาหารอร่อยทุกวัน หรือการไม่รู้สึกผิดต่อการรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ผู้ผลิตจึงควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สร้างการมี    ส่วนร่วมของผู้บริโภคเพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด เช่น ผู้บริโภคชาวจีน 63% มองหาอาหารรสชาติใหม่ ๆ เพื่อทดลอง ผู้บริโภคสหราชอาณาจักร 58% ที่บริโภคขนมหวาน ต้องการเห็นผู้ผลิตในแบรนด์ต่าง ๆ ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ซึ่ง FoodNavigator ระบุว่า ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แบรนด์อาหารและเครื่องดื่มจะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการสำหรับผู้บริโภคที่ไม่ต้องการความสมบูรณ์แบบ มีความยืดหยุ่นขึ้น และผ่อนคลายจากกฎเกณฑ์ ซึ่งผู้ผลิตต้องแสดงข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคมองหาที่ออกจากกรอบกฎเกณฑ์เดิม ๆ ให้เกิดความชัดเจนบนบรรจุภัณฑ์ 

3) ให้ความสำคัญกับแหล่งที่มาของอาหาร แนวโน้มด้านแหล่งที่มาของอาหารมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ผู้บริโภคต้องการทราบข้อมูลแหล่งที่มาของอาหารที่แท้จริง ข้อมูลต้องโปร่งใส อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันโลกเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ อาทิ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะชะงักงันของห่วงโซ่อุปทานอาหารของโลก ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่เริ่มเข้าใจว่า ผู้ผลิตอาจต้องให้ความสำคัญกับความอยู่รอดของธุรกิจมากกว่าตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยพบว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่เข้าใจความท้าทายดังกล่าว เช่น ผู้บริโภคชาวญี่ปุ่น 65% เข้าใจถึงเหตุการณ์ความเปลี่ยนแปลงในชีวิตที่ตนเองไม่มีอำนาจควบคุม และผู้บริโภคชาวฝรั่งเศส 74% เข้าใจดีว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสินค้าที่วางในซูเปอร์มาร์เก็ตในอนาคต

4) คาดหวังและเต็มใจที่จะบริโภคอาหารที่ผ่านเทคโนโลยีการเกษตร (Ag-Tech) การพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรและอาหารสมัยใหม่ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเป็นตัวกระตุ้นทำให้เห็นการผลิตอาหารจากกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร จึงทำให้ผู้บริโภคคาดหวังว่าเทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในระบบอาหารเพิ่มขึ้น เช่น ผู้บริโภคสหรัฐอเมริกา 52% ยอมรับประทานพืชผักที่ผ่านกระบวนการดัดแปรพันธุกรรม ผู้บริโภคสหราชอาณาจักร 40% ต้องการรู้ข้อมูลมากขึ้นว่าอาหารผลิตมาอย่างไร และผู้บริโภคชาวอิตาเลียน 23% สามารถเลือกซื้อสินค้าอาหารหรือเครื่องดื่มแม้จะระบุว่ามีการดัดแปรพันธุกรรม ดังนั้น ผู้ผลิตควรให้ความสำคัญกับการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อให้สามารถออกผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่มีคุณภาพดีขึ้น ทั้งคุณค่าทางโภชนาการ รสชาติ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 

ผอ. สนค. กล่าวทิ้งท้ายว่า เทรนด์อาหารและเครื่องดื่มของผู้บริโภคในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น ผู้ผลิตอาหารของไทยจึงต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง เพื่อผลิตอาหารที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งจะเห็นได้ว่า ผู้บริโภคยังคงให้ความสำคัญกับคุณค่าทางโภชนาการ  รวมทั้งแหล่งที่มาของอาหารที่ต้องมีความโปร่งใส รวมทั้งเปิดกว้างต่ออาหารที่ผ่านเทคโนโลยีการเกษตร และอาหารที่มีการดัดแปรพันธุกรรมเพิ่มขึ้น จึงเป็นโอกาสดีที่ผู้ผลิตจะได้พัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารใหม่ ๆ ที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการดังกล่าวในอนาคตได้

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

บมจ.สุพรีม ดิสทิบิวชั่น โชว์กำไร Q3/67 โต 226%

บมจ.สุพรีม ดิสทิบิวชั่น เร่งเครื่องลุยงานภาครัฐตามแผน โชว์กำไร Q3/67 โต 226% ก้าวต่อปีงบประมาณ 2568 ดันผลประกอบการเติบโต 10%-15%

บมจ.เอสไอเอสบี โชว์ผลงาน Q3/67 รายได้แตะ 606.02 ล้านบาท

บมจ.เอสไอเอสบี โชว์ผลงาน Q3/67 รายได้แตะ 606.02 ล้านบาท จำนวนนักเรียนรวม  4,587 ราย พร้อมรุกขยายโรงเรียนสาขาใหม่แห่งที่ 7 ใน จ.ปทุมธานี

บมจ.เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล โชว์ไตรมาส 3/67 กำไรสุทธิ 27.28 ล้าน

บมจ.เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล โชว์ไตรมาส 3/67 กำไรสุทธิ 27.28 ล้านเติบโตต่อเนื่อง ธุรกิจสอนภาษาWall Street English-บริการที่ปรึกษาคาร์บอนฟุตปรินท์

บมจ.พรีเมียร์ ควอลิตี้สตาร์ช โชว์ 9 เดือนปีนี้รายได้ทะลุ 2 พันล้าน

บมจ.พรีเมียร์ ควอลิตี้สตาร์ช โชว์ 9 เดือนปีนี้รายได้ทะลุ 2 พันล้าน กำไรโต 254% ดีมานด์ประเทศจีนพุ่งดันปริมาณขายแป้งมันสำปะหลังเพิ่มขึ้น