สืบเนื่องจากกรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ต่อปี จาก 2.25% เป็น 2.00% เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อให้ภาวะการเงินสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และเสถียรภาพระบบการเงิน รวมทั้งช่วยกระตุ้นการเติบโตของภาคธุรกิจ
นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวว่า บสย. สนับสนุนนโยบายรัฐบาล ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate ลง 0.15% ต่อปี คงเหลือ 5.90% ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุด เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ต่อเนื่อง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป
ตลอดเวลาที่ผ่านมา บสย. ยืนหยัดในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ให้ผ่านพ้นวิกฤต พร้อมเดินหน้าเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีมาตรการช่วยเหลือ SMEs ที่ บสย. จ่ายค่าประกันชดเชย หรือ ลูกหนี้ บสย. ผ่านมาตการ “บสย. พร้อมช่วย” หรือ มาตรการ 3 สี ม่วง เหลือง เขียว ซึ่งในปี 2568 ได้ปรับเงื่อนไขให้ยืดหยุ่นผ่อนปรนมากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยลูกหนี้ บสย. ลดภาระ-ปลดหนี้ แก้หนี้ยั่งยืน จุดเด่นของมาตรการนี้ เน้นออกแบบเพื่อรองรับกับความสามารถในการชำระหนี้ 3 ระดับ (ม่วง เหลือง เขียว)
พิเศษ! ปีนี้ยังได้เปิดตัวช่วยเหลือ SMEs ลูกหนี้ “กลุ่มเปราะบาง” ของ บสย. ที่มีเงินต้นไม่เกิน 2 แสนบาท ปัจจุบันมีจำนวนมากกว่า 100,000 ราย โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 0% ชำระครั้งแรกเพียง 500 บาท ผ่อนสูงสุด 80 เดือน ตัดเงินต้นทั้งจำนวน ค่างวดขั้นต่ำเพียง 500-2,500 บาท และสามารถปลดหนี้ ลดต้นสูงถึง 30% เมื่อจ่ายต่อเนื่อง 6 งวด ซึ่งถือเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงที่สุดเท่าที่ บสย. เคยทำมา เพื่อช่วย SMEs รายย่อย พ่อค้า แม่ค้า อาชีพอิสระ ให้สามารถปลดหนี้ได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น ช่วยต่อลมหายใจและสามารถเดินหน้ากิจการต่อได้อย่างยั่งยืน
