JCR คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ที่ A

Date:

นายพชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2568 บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Japan Credit Rating Agency, Ltd. (JCR) ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ A และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) ที่ระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) โดยมีรายละเอียดที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการบริหารหนี้สาธารณะ ดังนี้

• JCR คาดว่า เศรษฐกิจไทยมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แท้จริง (Real Gross Domestic Product (GDP) Growth) อยู่ที่ร้อยละ 2.5 ในปี 2567 และจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2568 อันเป็นผลมาจากการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายการเงินที่จะเป็นแรงสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมถึงการใช้จ่ายของภาคเอกชนและการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้น อีกทั้งการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง 

• แม้ว่าการขาดดุลทางการคลังจะยังคงอยู่ในระดับค่อนข้างสูงอยู่ที่ร้อยละ 4.5 ในปี 2568 ซึ่งเป็นผลส่วนหนึ่งจากการดำเนินนโยบายการคลังแบบขยายตัวเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่รัฐบาลไทยยังคงรักษาระดับฐานะการคลังให้อยู่ในระดับที่ดี (Good Fiscal Position) ส่งผลให้ระดับหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Public Debt to GDP) อยู่ที่ร้อยละ 63.2 ในปี 2567 โดย JCR เชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถบริหารจัดการหนี้สาธารณะเพื่อรักษาระดับหนี้สาธารณะไม่ให้เกินกรอบเพดานสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ที่ร้อยละ 70 อีกทั้งหนี้สาธารณะส่วนใหญ่เป็นการออกพันธบัตรรัฐบาลภายในประเทศ และสัดส่วนหนี้ต่างประเทศต่อหนี้สาธารณะคงค้างยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 1.0 

• JCR มองว่า รัฐบาลไทยได้ใช้มาตรการสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อส่งเสริมและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ (Foreign Investments) โดยเฉพาะการมุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญ อาทิ การลงทุนในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Hub) ในอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมไฟฟ้า และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถึงแม้ว่าผลจากการดำเนินนโยบายทางการค้าของสหรัฐอเมริกา อาจจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตดังกล่าว แต่ยังคงเป็นปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยที่สำคัญที่จะช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจต่อไป

• ภาคการเงินต่างประเทศ (External Finance) มีความแข็งแกร่งและทุนสำรองระหว่างประเทศยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง จากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด และสามารถรองรับผลกระทบที่เกิดจากปัจจัยภายนอก (External Shocks) ได้ 

• ปัจจัยสำคัญที่ JCR จะติดตามสำหรับพิจารณาการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) ของประเทศไทย คือ อัตราการเกิดที่ลดลงและการเพิ่มขึ้นของประชากรผู้สูงอายุอาจจะส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว 

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

“พาณิชย์” สำรวจงานเครื่องสำอางรักษ์โลกมาแรง

“พาณิชย์” สำรวจงาน COSMOPROF เมืองมิลาน อิตาลี พบเครื่องสำอางรักษ์โลกมาแรง แนะไทยศึกษา-ผลิตขาย

“อิ๊งค์” บอกคดีชั่น14 “ให้ไปถามคุณพ่อ”

"อิ๊งค์" บอก “ให้ไปถามคุณพ่อ"  หลังศาลฎีกา​ เรียกทักษิณ​ -​ ผู้เกี่ยวข้อง​ ไต่สวน​ 13 มิ.ย.นี้​ ปม​ชั้น​ 14

TQM ชูแผน “ประกันมนุษย์เงินเดือน”

TQM ชูแผน “ประกันมนุษย์เงินเดือน” ต่อเนื่องปีที่ 8 รับวันแรงงานแห่งชาติ

ฟันธง!!! คดีชั้น 14 มีคนผิด

ฟันธง!!! คดีชั้น 14 มีคนผิด ทักษิณ ยังหนาวต่อ