
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” ระบุว่า
เอฟเฟกต์ อุยกูร์:ไทยได้ไม่คุ้มเสีย ใครรับผิดชอบ
ผลจากการที่รัฐบาลไทยตัดสินใจส่งตัวชาวอุยกูร์ 40 คนให้กับประเทศจีน ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงกระบวนการที่ไม่โปร่งใสในการส่งตัว ครั้งนี้ ทำให้ฝ่ายที่คัดค้านถูกมองว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลบ้าง เป็นพวกโลกสวยบ้าง คลั่งสิทธิมนุษชนบ้าง โดยไม่คาดคิดว่าจะเกิดผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างรุนแรง จะตามมาภายหลัง
ซึ่งรัฐบาลไทยได้สร้างภาพประชาสัมพันธ์และโฆษณาชวนเชื่อร่วมกับรัฐบาลจีน เพื่อให้ชาวโลกเห็นว่า การส่งตัวชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน เป็นความสมัครใจและได้รับความปลอดภัยตามภาพโฆษณาที่ปรากฏตามสื่อตามต่างๆ
แต่หลังจากนั้นไม่กี่วัน เราก็จะเห็นปฏิกิริยาโต้กลับจากสภายุโรป ที่ลงมติ 482 ต่อ 57 คะแนน ประณามประเทศไทยในเรื่องการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน การแก้ไขมาตรา 112 และการปล่อยตัวนักโทษคดีการเมือง โดยใช้มาตรการเจรจาการค้าเสรีเอฟ(FTA)บีบไทย
หลังจากนั้นล่าสุดประเทศสหรัฐอเมริกาได้ออกแถลงการณ์ประกาศงดวีซ่าให้กับเจ้าหน้าที่และบุคคลในครอบครัว ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัวชาวอุยกูร์ 40 คน น่าจะหมายถึงบุคคลตั้งแต่นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง จนถึงฝ่ายความมั่นคง และกระทรวงการต่างประเทศ ที่โดนแบล็คลิสต์จากสหรัฐอเมริกาไม่ออกหนังสือวีซ่าเข้าประเทศสหรัฐอเมริกา ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาประชาคมโลก
และคงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ไทยกับสหรัฐอเมริกา เกือบ 200 ปี ซึ่งต่อไปก็อาจจะมีมาตรการคว่ำบาตร หรือกีดกันทางการค้าจากรัฐบาลโดนัททรัมป์ ตามมาอีกก็เป็นได้ ยิ่งในขณะนี้คนไทยที่ต้องการเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา จำเป็นต้องขอออกหนังสือวีซ่าซึ่งยากอยู่แล้ว ยิ่งเพิ่มความยากลำบากเพิ่มขึ้นอีก
สำหรับเรื่องนี้ต้องยอมรับว่า เป็นการตัดสินใจของรัฐบาลที่ผิดพลาด ได้ไม่คุ้มเสีย ถ้ารัฐบาลมีความจริงใจมีความโปร่งใส ควรจะดำเนินการแบบเปิดเผย ให้มีทุกฝ่ายมีส่วนร่วมสังเกตุการณ์ ในการส่งตัวชาวอุยกูร์ 40 คนกลับประเทศจีน เพื่อลบข้อครหาทั้งหมด และจะทำให้ประเทศไทยรอดพ้นเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนจากประชาคมโลกได้
อยากถามว่า ใครจะรับผิดชอบต่อผลกระทบ หรือ เอฟเฟกต์จากการส่งชาวอุยกูร์ 40 คนกลับประเทศจีน ที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศหลายด้านในครั้งนี้