“พิชัย” เซ็นตั้งคณะทำงานกวาดล้างนอมินี

Date:

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยการนำของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานและการแก้ปัญหาธุรกิจนอมินีที่ทำให้ผู้ประกอบการ SME ของไทยเสียเปรียบ ที่ผ่านมา ตนได้ตั้งคณะอนุกรรมการฯ ขึ้นมา 2 ชุด เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ประกอบด้วย (1) คณะอนุกรรมการส่งเสริมและยกระดับ SMEs ไทยและแก้ไขปัญหาสินค้าที่ไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศ และ (2) คณะอนุกรรมการป้องกันและป้องปรามธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว (Nominee) โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายนภินทร ศรีสรรพางค์) เป็นประธานอนุกรรมการฯ

คณะกรรมการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมายที่ลงนามแต่งตั้งโดยท่านนายกรัฐมนตรี มีผลงานเป็นรูปธรรมต่อเนื่อง โดยในช่วงที่ผ่านมา กรมศุลกากรสามารถจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากสินค้านำเข้าราคาต่ำกว่า 1,500 บาท ได้สูงถึง 1,500 ล้านบาท และดำเนินคดีสินค้าผิดกฎหมายไปแล้ว 24,626 คดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 1,257.24 ล้านบาท สามารถลดการนำเข้าสินค้าผ่าน e-Commerce ลง 8% หรือเฉลี่ยเดือนละ 3,645 ล้านบาท และสามารถกวาดล้างธุรกิจนอมินีไปแล้ว 851 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 15,121 ล้านบาท

สำหรับคณะทำงานที่จัดตั้งขึ้นครั้งนี้ มีร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานคณะทำงาน พร้อมด้วยผู้แทนจาก 16 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมศุลกากร กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยคณะทำงานนี้จะมีหน้าที่กำกับดูแล เร่งรัด และติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตาม กฎหมาย พร้อมทั้งประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการสืบสวน สอบสวน และดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด

นายพิชัย ระบุว่า การดำเนินงานจะมีการบูรณาการการบังคับใช้กฎหมายในทุกมิติ ตั้งแต่การตรวจสอบ สืบสวน ดำเนินคดี ยึดอายัดทรัพย์สิน ไปจนถึงมาตรการทางภาษี เพื่อให้สามารถทำลายวงจรธุรกิจผิดกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 5 ธุรกิจเป้าหมาย ได้แก่ 1) ธุรกิจท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวข้อง 2) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการให้เช่าที่ดิน 3) ธุรกิจขนส่งทางบก 4) ธุรกิจโกดังสินค้าและโลจิสติกส์ และ 5) ธุรกิจซื้อที่ดินเพื่อการเกษตร ซึ่งมีรายงานว่ากำลังมีการขยายตัวของธุรกิจที่เข้าข่ายเป็นนอมินีในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในภาคตะวันออก เช่น ระยองและจันทบุรี ที่มีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนเพื่อปลูกทุเรียนเพื่อนำส่งออกต่างประเทศ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า การปราบปรามธุรกิจผิดกฎหมายและสินค้าด้อยคุณภาพถือเป็นวาระสำคัญของรัฐบาล โดยการนำของท่านนายกรัฐมนตรี เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยให้เศรษฐกิจของไทยเข้มแข็งขึ้น แต่ยังช่วยให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรมสำหรับผู้ประกอบการ SME ของไทย พร้อมยืนยันว่าการดำเนินงานครั้งนี้จะเป็นมาตรการที่ต่อเนื่องและเข้มข้นขึ้น โดยหวังว่าจะสามารถจัดการปัญหาดังกล่าวได้อย่างเป็นรูปธรรม และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการและประชาชนในระยะยาว

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

กรุงเทพฯ ขยับอันดับขึ้นอีกครั้งในดัชนีเมืองระดับโลก

กรุงเทพฯ ขยับอันดับขึ้นอีกครั้งในดัชนีเมืองระดับโลก (Global Cities Index) ปี 2025 ของ Kearney ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก

แอร์บัส และคาเธ่ย์จับมือร่วมลงทุนเชื้อเพลิง SAF

แอร์บัส และคาเธ่ย์จับมือร่วมลงทุน เดินหน้าผลักดันการใช้เชื้อเพลิง SAF

เวียตเจ็ท ซื้อเครื่องบินแอร์บัส เอ321นีโอ จำนวน 100 ลำ

เวียตเจ็ท ลงนามสัญญาสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส เอ321นีโอ จำนวน 100 ลำ

นายกฯ อนุทิน ดีใจ ประเทศไทยได้กลับมาในเวทีโลก

นายกฯ อนุทิน ดีใจ ประเทศไทยได้กลับมาในเวทีโลก ผู้นำหลายประเทศตอบรับดี