
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” ระบุว่า
ตอบข้อสงสัย ทักษิณ เจรจาภาษีทรัมป์
ผมเห็นข่าวที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน เคยเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาเปิดเผยข้อมูลการเจรจาเรื่องกำแพงภาษีกับอเมริกาอย่างตรงไปตรงมา รวมถึงแนวทางแก้ไขว่าเป็นอย่างไร แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบจากรัฐบาล กลับมาได้คำตอบจากนายทักษิณ ที่ได้เปิดเผยถึงเรื่องบนโต๊ะเจรจาว่า ได้เอาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง และเรื่องที่มีการจับกุม นายพอล แชมเบอร์ส คดีมาตรา 112 เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และได้ตั้งคำถามว่า นายทักษิณ ไม่ได้มีตำแหน่งอะไรเลยในรัฐบาลนี้ ไม่ได้เป็นที่ปรึกษา หรืออยู่ในคณะเจรจาด้วย ดังนั้นคำพูดของนายทักษิณ ไม่แน่ใจว่าจะเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน และจะนำไปสู่การแก้ไขเรื่องนี้อย่างไร
ผมอยากจะตอบข้อสงสัยของ น.ส.ศิริกัญญา ว่า อย่าไปคาดหวังคำตอบจากรัฐบาลเลย เพราะรัฐบาลชุดนี้อยู่ภายใต้กำกับของนายทักษิณ คอยฟังคำสั่งจากนายทักษิณแต่เพียงผู้เดียว เมื่อนายทักษิณพูดอะไรออกไป นั่นหมายถึงทิศทางของรัฐบาล และถ้าหากนายทักษิณจะเดินทางไปเจรจาเรื่องกำแพงภาษี กับโดนัล ทรัมป์จริง ก็สามารถทำได้ จะมีน้ำหนักมากกว่าทีมไทยแลนด์ที่รัฐบาลตั้งขึ้นเป็นตัวแทนในการเจรจาเสียอีก
ถ้าหากนายทักษิณจะขออนุญาตศาลเพื่อเดินทางออกนอกประเทศ ก็เชื่อว่าน่าจะได้รับอนุญาต เพราะศาลเคยอนุญาตให้นายทักษิณเดินทางไปต่างประเทศมาแล้ว2ครั้ง ปัญหาอยู่ที่นายทักษิณจะเดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาได้หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ นายมาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ประกาศขึ้นแบล็คลิสต์ งดวีซ่าเข้าประเทศกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัวอุยกูร์กลับประเทศจีน ทั้งตัวผู้บริหารและบุคคลในครอบครัว
ถึงแม้ว่าสหรัฐอเมริกาไม่ได้เปิดเผยรายชื่ออย่างเป็นทางการ แต่จากการวิเคราะห์ของ Human Rights Watch บุคคลที่อาจเข้าข่าย ได้แก่ นายกรัฐมนตรี (น.ส.แพทองธาร ชินวัตร) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (นายภูมิธรรม เวชยชัย) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ (นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง) เลขาธิการ สมช. (นายฉัตรชัย บางชวด) และเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่มีบทบาทในการอนุมัติ ฯลฯ
ถ้าหากนายทักษิณคิดจะเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อเจรจาเรื่องกำแพงภาษีจริง ก็ขอให้ตรวจสอบวีซ่าเข้าประเทศเสียก่อน กลัวจะหน้าแตกกลับมา