นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ SA ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ภายใต้แนวคิด ‘Asset of Life สร้างกำไรให้กับทุกการใช้ชีวิต’ เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 จะเติบโตมากกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากมีจำนวนยอดจองบ้าน และคอนโดมิเนียมมากขึ้น รวมถึงธุรกิจพัฒนาใหม่ของบริษัท อาทิ Siamese Technology และ Food & Beverage มีการเติบโตโดดเด่น ประกอบกับมาตรการผ่อนคลายและเปิดประเทศของรัฐบาลเป็นปัจจัยสนับสนุนเพิ่มเติม
“เราเชื่อมั่นว่าในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยที่ผ่านมาบริษัทฯมียอดจองโครงการ Monsane’ Exclusive Villa Ratchapruek – Pinklao เข้ามาเพิ่มเติมอีกกว่า 20 หลัง ส่วนธุรกิจพัฒนาใหม่มีความคืบหน้าหลายโครงการ นอกจากนี้ธุรกิจ Siamese Technology และ Food & Beverage ที่มีรายได้เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันคาดว่าธุรกิจ Spa & Wellness จะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปีนี้ รวมทั้งการที่รัฐบาลมีการประกาศผ่อนคลายมาตรการและเปิดประเทศ ส่งผลทำให้เริ่มมีการเดินทางท่องเที่ยวหรือเดินทางเพื่อธุรกิจเข้ามาในประเทศทำให้มีปัจจัยบวกเพิ่มเติมต่อรายได้จากโรงแรมและค่าเช่า เนื่องจากโครงการคอนโดฯได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างคึกคัก และมีบริการแบบ Branded residences ซึ่งมีทำเลที่ตั้งที่โดดเด่น อาทิ โซนพระราม9 โซนสุขุมวิท เป็นต้น”
ทั้งนี้ ในช่วงปลายปีบริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดตัวโครงการใหม่อีกจำนวน 3 โครงการ ซึ่งเป็นแนวราบจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ Siamese Holm Phahol -Viphavadi และ Monsane Ratchapruek- Cheangwattana เป็นโครงการแนวสูงจำนวน 1 โครงการ ได้แก่ Siamese Talingchan ซึ่งเป็นโครงการลักษณะ Wellness แนวใหม่ของไซมิส โดยเมื่อช่วงต้นปี 2565 บริษัทฯ ได้ทำการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ Lanemark@Kasetsart TSH Station และโครงการ Monsane’ Exclusive Villa Ratchapruek – Pinklao
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีโครงการที่กำลังดำเนินงานอยู่เพื่อขายมูลค่า 19,143 ล้านบาท ซึ่งมี Backlog จากการขาย Presale มูลค่า 5,000 ล้านบาท และมีโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จเพื่อขายมูลค่า 15,432 ล้านบาท ซึ่งมี Inventory มูลค่า 4,000 ล้านบาทอีกด้วย
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวอีกว่า บริษัทฯ ยังคงกลยุทธ์ปรับสัดส่วนการพัฒนาโครงการแนวราบ ให้มีมูลค่าเป็นสัดส่วนร้อยละ 50 ของรายได้รวมภายในระยะเวลา 3 ปี (ไตรมาส1/2565-ไตรมาส4/2567) พร้อมคาดการณ์ว่าภายในปี 2566 บริษัทฯ จะมีรายได้จากแนวราบประมาณปีละ 3,000-4,000 ล้านบาท ดังนั้นเมื่อรวมกับรายได้โครงการแนวสูงที่ปัจจุบันสามารถรับรู้รายได้ได้ 3,000-4,000 ล้านบาท และจะทำให้รายได้ของบริษัทฯ เติบโตอย่างก้าวกระโดดไปที่ 6,000-8,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 2 ปี
ส่วนธุรกิจ Cloud Kitchen ภายหลังที่บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาบริการกับธุรกิจจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มแบรนด์ดัง ประกอบด้วย ร้านพิซซ่าภายใต้ชื่อทางการค้า DOMINO’S PIZZA ในประเทศไทยและ ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดเครือข่ายใหญ่เป็นอันดับสองของโลกอย่าง SUBWAY ปัจจุบันบริษัทฯ เปิดดำเนินการไปแล้วจำนวน 16 สาขา และอยู่ระหว่างเตรียมเปิดเพิ่มเติมอีก 10 สาขาภายในไตรมาส 3 นี้
สำหรับความคืบหน้า ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ที่ SA ได้จัดตั้งบริษัทย่อย “ไซมิส แอสเทท แอนด์ เวลธ์ แมเนจเมนท์” หรือ SWAM พร้อมฟอร์มทีมผู้บริหารมืออาชีพด้วยประสบการณ์ในวงการบริหารสินทรัพย์มากว่า 30 ปี ปัจจุบันบริษัทฯได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการบริหารสินทรัพย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างเตรียมยื่นซองประมูล NPA-NPL มาบริหาร โดยวางงบลงทุนอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาท คาดเห็นความชัดเจนภายในไตรมาส 4 นี้