
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” ระบุว่า
คิดใหม่อีกครั้ง ลาออกเถอะครับ
หลังจากเหตุการณ์คลิปหลุดหรือคลิปปล่อย ที่มีการสนทนากันระหว่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภาประเทศกัมพูชา มีเสียงเรียกร้องให้นางสาวแพทองธารแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง โดยการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่นางสาวแพทองธาร กลับมาแถลงยอมรับว่า คลิปดังกล่าวเป็นเสียงของนางสาวแพทองธารจริง แต่เจตนาต้องการพูดคุยเพื่อต่อรอง เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ เป็นการใช้เทคนิคในการเจรจา ซึ่งไม่ได้มีเจตนาจะทำให้ประเทศเสียหาย
ในวันนั้นถ้าหากนางสาวแพทองธาร แสดงความรับผิดชอบทางการเมือง โดยการประกาศลาออกทันที น่าจะเป็นเรื่องที่สง่างามที่สุด และจะเป็นเครดิตของนางสาวแพทองธารเอง จะได้ชื่อว่านางสาวแพทองธาร เป็นนักการเมืองที่มีสปิริต และเป็นแบบอย่างของนักการเมืองทั่วไป ในฐานะนักการเมืองGen Y
แต่ในที่สุดนางสาวแพทองธาร กลับยืนกระต่ายขาเดียว มาแถลงข่าวอีกรอบ ตั้งคำถามว่า ประเทศชาติเสียอะไร และตัวนางสาวแพทองธาร ก็ไม่ได้อะไรจากเหตุการณ์คลิปหลุดเลย ซึ่งทำให้สังคมเห็นว่า นางสาวแพทองธาร แถลงในลักษณะเอาสีข้างเข้าถู ไม่ยอมรับผิด พูดถึงการขออภัยที่ทำให้ หลายคนเสียใจ ยังไม่ถึงขั้นกล่าวคำขอโทษด้วยซ้ำไป ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้น น่าจะเป็นการตัดสินใจหาทางลงที่สวยที่สุด โดยการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
จนถึงวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติรับคำร้องของประธานวุฒิสภา และมีมติให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หยุดปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี นับว่าเป็นอีกครั้งหนึ่ง เป็นโอกาสที่นางสาวแพทองธาร ที่จะใช้โอกาสนี้ แสดงสปิริตลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎร ได้สรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพราะจะอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์ การหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ แม้ว่านางสาวแพทองธารจะเลี่ยงบาลี โดยการไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ก็เป็นแนวความคิดแบบศรีธนญชัย ซึ่งไม่สง่างาม
ตอนนี้การเมืองมีทางออกเดียว คือนายกรัฐมนตรีต้องลาออกจากตำแหน่ง ส่วนทางออกเรื่องการยุบสภานั้น ยังเป็นข้อกังขา และเป็นประเด็นข้อกฎหมาย ที่จะต้องวินิจฉัยกันต่อไปว่า ผู้รักษาการในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี สามารถใช้อำนาจยุบสภาได้หรือไม่ ซึ่งเป็นประเด็นปัญหาที่จะต้องตีความกันต่อไป แต่ที่แน่ๆไม่ต้องตีความ ก็คือนางสาวแพทองธาร แสดงเจตนาลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเรื่องที่สง่างามและเหมาะสมที่สุด
จึงเรียกร้องมายังนางสาวแพทองธาร ให้ทบทวนหรือไตร่ตรอง คิดใหม่ว่า ช่วงนี้เป็นโอกาสดีที่สุด เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน และเป็นการสร้างแบบอย่างทางการเมือง ให้เป็นที่หวังของประชาชนทั้งประเทศ โดยนางสาวแพทองธาร ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทันที