
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 8 ก.ค. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมนานาชาติด้านซอฟต์พาวเวอร์ (SPLASH -Soft PowerForum 2025) กล่าวว่า วันนี้เรากำลังอยู่ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มีสิ่งที่เราคาดเดาไม่ได้เกิดขึ้นมากมายทั้งเรื่องอากาศ เศรษฐกิจ และมีอีกหลายปัจจัยทั่วโลกที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆที่เข้ามาทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นในหลายรูปแบบ และทำให้เราเกิดการปรับตัวเพิ่มมากขึ้น ดิฉันเชื่อว่าการเข้าใจบริบทของการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในการรับมือและการปรับตัวต่างๆ ทำให้เราอยู่เฉยไม่ได้ต้องคอยปรับตัวเพื่อให้ทันต่อการแข่งขันอยู่ตลอดเวลา
น.ส.แพทองธาร กล่าวต่อว่า ในวันนี้เองที่ประเทศไทยกำลังยืนอยู่บนทางแยกแห่งอนาคตรัฐบาลพยายามจะหาเงินใหม่ๆเข้ามาลงทุนในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคตศูนย์กลางขนส่งในภูมิภาค ซึ่งถือเป็นรากฐานทางเศรษฐกิจที่ต้องใช้เวลานานและต้องใช้การลงทุนมหาศาลที่จะทำให้เกิดขึ้น แต่รัฐบาลได้เริ่มแล้วฉะนั้นถือเป็นการวางรากฐานในอนาคต และอีกเส้นทางที่เราให้ความสำคัญคือวัฒนธรรมสร้างสรรค์หรือซอฟต์พาวเวอร์ ที่วันนี้ทั่วโลกไม่ได้สนใจซื้อแค่สินค้าหรือแค่บริการอีกต่อไป แต่การที่ได้ซื้อความเป็นออริจินอลของแต่ละประเทศ โดยเฉพาะประเทศเรามีวัฒนธรรมที่เข้มข้นอย่างมาก ทำให้ทั่วโลกหลงเสน่ห์ ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมอาหาร ความเป็นอยู่ เสน่ห์รอยยิ้ม ความช่วยเหลือน้ำใจของคนไทย และในวันนี้เองทั่วโลกสนใจเรื่องของซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย โดยเอกชนและรัฐทำงานบูรณาการร่วมกันลดการทำงานที่ซ้ำซ้อนเพื่อทำให้อุตสาหกรรมต่างๆเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ถือเป็นสิ่งที่เราพยายามจะเดินหน้าต่อ เมื่อรากฐานมั่นคงขั้นตอนต่อไปคือการยกระดับที่เน้นจากภายในประเทศสู่การมองไกลและกว้างเชื่อมกับโลกได้มากขึ้น ที่สำคัญเรามีเป้าหมายที่ใหญ่มากยิ่งขึ้นกำหนดไว้ประมาณ 5 เรื่อง
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า 1. เรื่องอาหารไทย ต่างชาติชอบอาหารไทยมาก คือส้มตำ ต้มยำกุ้ง ขนมไทย 2.กีฬามวยไทย ชาวต่างชาติให้ความสนใจ เราพยายามผลักดันหลักสูตรการสอนที่ถูกต้อง 3. เรื่องการนวด โดยการใช้สมุนไพรและอาหารสุขภาพ เพื่อบำบัดทั้งร่างกายและจิตใจไปด้วย 4. ภาพยนตร์ไทย เราต้องการให้ประเทศไทยเป็นที่ที่ชาวต่างชาติมาถ่ายทำภาพยนตร์ โดยให้เงินคืนสำหรับการถ่ายภาพยนตร์ในไทย(Cash Rebate) 30% และ5. เรื่องอัญมณีเป็นอุตสาหกรรมส่งออกอันดับต้นๆของประเทศ เมื่อ 20 ปีที่แล้วมียอดส่งออกอัญมณีประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ปีนี้มีการส่งออกมากถึง 10 เท่า คือ 5 แสนล้านบาท ซึ่งใน 5 เดือนแรก 380,000 ล้านบาท ถือเป็นอุตสาหกรรมที่น่าสนใจมาก ดังนั้นเองเราอยากจะโฟกัสให้นักออกแบบเพชร ช่างเจียระไน ช่างทอง และช่างเงินจำนวนมากได้มีความรู้มากขึ้น ยกระดับให้เป็นศิลปิน เพื่อให้มีค่าตอบแทนที่สูงมากขึ้น หวังว่าจากนี้จะมีการส่งเสริมอุตสาหกรรมนี้เพื่อเพิ่มมูลค่าส่งออก 1 ล้านล้านบาทภายใน 5 ปี เพื่อเพิ่มรายได้ใหม่ให้กับคนในประเทศ สามารถทำให้คนไทยมีทางรอด ในการเพิ่มรายได้ใหม่และอาชีพใหม่ด้วย