
นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟสบุ๊ก “เศรษฐา ทวีสิน – Srettha Thavisin” ระบุว่า
ย่านบรรทัดทองเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจมาก เราเห็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแต่ละฝ่ายที่มีเป้าหมายต่างกัน ฝั่งเจ้าของที่ดันค่าเช่าขึ้นเพราะความต้องการของร้านต่างๆ ที่แย่งกันมาเปิด เพราะเห็นโอกาสในการสร้างรายได้ ฝั่งร้านค้าบางร้านก็ตั้งราคาอาหารสูงเกินปกติ เพราะเห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มามากมาย
มาถึงวันนี้ เมื่อนักท่องเที่ยวลดลง ย่านบรรทัดทองจึงทำให้สายกินคนไทยที่คาดหวังความอร่อยราคาดี ต้องมาเจอกับอาหารธรรมดาแต่ราคาแพง ลูกค้าก็ถอยกันหมด กลายเป็นฟองสบู่ที่แตกอย่างรวดเร็ว น่าเสียดายที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแต่ละฝ่ายไม่ได้ร่วมกันมองการพัฒนาพื้นที่โดยเอาความยั่งยืนเป็นตัวตั้ง ไม่ได้ปรับค่าเช่าที่หรือราคาอาหารให้สอดคล้องกับความเป็นจริง เพื่อที่จะยืนอยู่ด้วยกันได้ในระยะยาว
นอกจากนี้ นายเศรษฐายังโพสต์เฟสบุ๊ก “เศรษฐา ทวีสิน – Srettha Thavisin” ระบุอีกว่า
ผมเหมาหมูสะเต๊ะนายซ้ง หนึ่งในร้านดังย่านบรรทัดทองมาเที่ยงวันนี้ รุ่นน้องคนหนึ่งตกใจมาก แล้วบอกผมว่า “ร้านนี้อร่อยมากและดังมาก ถ้าซ้งยังอยู่ไม่ได้ แล้วร้านไหนจะอยู่ได้…”
เป็นความเห็นที่น่ากังวลใจมากพอสมควร แต่ถ้าจะตั้งคำถามว่าใครจะช่วยบรรทัดทอง สำหรับผม เที่ยงนี้ผมเหมามาแล้ว 2 ร้าน ทั้งหมูสะเต๊ะนายซ้ง กับก๋วยเตี๋ยวผัดบรรทัดทอง อย่างน้อย นิดๆ หน่อยๆ ก็ช่วยกันไปครับ