
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 18 ก.ค. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.วัฒนธรรม พร้อม ด้วย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม เดินทางออกจากฝูงเครื่องบิน กองการบิน ศูนย์การเคลื่อนย้ายกองทัพบก (ขส.ทบ.) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังโรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เพื่อเยี่ยมทหารชุดลาดตระเวน ที่ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดระหว่างลาดตระเวน บริเวณพื้นที่ เนิน 481 บริเวณพิกัด WA 220 861 ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ โรงพยาบาลประจำมณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ โดยเป็นภารกิจด่วน จากเดิมช่วงเช้าน.ส.แพทองธาร แจ้งเข้าปฎิบัติหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม

“บิ๊กเล็ก” ขอเวลาตรวจสอบระเบิด 2-3 วัน
เมื่อเวลา 07.48 น.วันที่ 18 ก.ค. ที่ฝูงเครื่องบิน กองการบิน ศูนย์การเคลื่อนย้ายกองทัพบก (ขส.ทบ.) ดอนเมือง กรุงเทพฯ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาการรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี พร้อมน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.วัฒนธรรม เพื่อเยี่ยมกำลังพลประสบเหตุเหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวน บริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี บาดเจ็บ 3 นาย ว่า การลงพื้นที่วันนี้ทางกองทัพบกจะลงไปเยี่ยมเยียนกำลังพลและมอบเงิน เมื่อรมว.วัฒนธรรมทราบจึงขอร่วมคณะไปด้วย เพราะต้องการมอบเงินช่วยเหลือในส่วนของน.ส.แพทองธาร
พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า สำหรับการดูแลทหารทั้ง 3 คนที่บาดเจ็บ ยศนายสิบ 1 คน พลทหาร 2 คน โดยพลทหาร 1 คนข้อเท้าขาด คนนี้จะให้การดูแลเงินบำรุงขวัญ รวมแล้วประมาณ 900,000 บาท นอกจากนั้นยังมีเงินบำรุงขวัญพระราชทาน 50,000 บาท รวมทั้งสิ้นเกือบ 1 ล้านบาท และจะได้รับเงินค่าตอบแทนเดือนละ 15,600 บาท
รวมถึงจะพิจารณาบรรจุญาติซึ่งอาจจะเป็นพี่สาวของพลทหารที่เจ็บ ที่แสดงเจตนาเบื้องต้นต้องการรับราชการกองทัพบกจะพิจารณาบรรจุทายาทให้ ส่วนอีก2 คน.ที่ได้รับบาดเจ็บ จะได้รับค่าตอบแทนค่า 10,000 บาท
ผู้สื่อข่าวถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบระเบิด เป็นของเก่าหรือของใหม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า กำลังให้ศูนย์ทุ่นระเบิดตรวจสอบอยู่ ตนเป็นรมช.กลาโหม และเป็น ผอ. ศบ.ทก. จะทำตามความเชื่อและความคิดไม่ได้ ต้องพูดตามหลักฐาน ปัจจุบันยังมีระเบิดเก่าอยู่ในพื้นที่ ซึ่งเราก็คาดว่าเป็นระเบิดเก่า แต่ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเป็นระเบิดใหม่ รับรองว่าจะไม่มีการหยุดนิ่ง เพราะทั้งสองประเทศอยู่ในสนธิสัญญาออตตาวา การใช้ระเบิดใหม่ถือว่าผิดสนธิสัญญานี้ ส่วนระยะเวลาในการตรวจสอบได้ขอให้เร่งดำเนินการให้ได้ผลภายใน2-3วันนี้ เพราะทุกคนอยากทราบ
“สิ่งที่คนอื่นพูด พูดไปตามความเชื่อ ตามความคิด แต่ผมไปพูดอย่างนั้นไม่ได้ต้องพูดตามหลักฐาน ถ้าพูดแล้วต้องมีหลักฐานว่าอะไรที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นของใหม่ ขอให้สื่อมวลชนคอยสักนิด เพราะกำลังเร่งอยู่“ พล.อ.ณัฐพล กล่าว
เมื่อถามย้ำว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่ระเบิดจะเป็นของใหม่ และเข้ามาวางใหม่ในพื้นที่ไทย พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เป็นไปได้ เพราะมีข่าวมาเหมือนกัน แต่ข้อมูลจากทางการข่าวยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ จึงต้องมีการพิสูจน์เพิ่มเติม เราไม่ได้เชื่อว่าเป็นของเก่า แต่คำพูดของคนที่รับผิดชอบก็ต้องพูดตามหลักฐาน ต้องขอความเห็นใจว่าถ้าจะไปพูดให้ตรงใจสื่อมวลชนคงยาก
เมื่อถามย้ำว่าหากเป็นระเบิดใหม่ จะมีเทคโนโลยีที่ไม่สามารถตรวจพบได้หรือไม่ รมช.กลาโหม กล่าวว่า ถ้าเป็นระเบิดพลาสติกก็ตรวจไม่เจอ
ทั้งนี้ต้องกำชับในเรื่องของการลาดตระเวนมากขึ้น โดยฝากแม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ไปเรียบร้อยแล้ว

นายกฯ เป็น ตัวแทน ครม. เยี่ยมกำลังพลบาดเจ็บช่องบก
เมื่อเวลา 10.46 น. วันที่ 18 ก.ค. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กและทวิตผ่าน x ภายหลังเยี่ยมทหารชุดลาดตระเวน ที่ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดระหว่างลาดตระเวน บริเวณพื้นที่ เนิน 481 บริเวณพิกัด WA 220 861 ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ว่า วันนี้ดิฉันได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรีให้เป็นตัวแทนร่วมคณะกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางไปยังโรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจทหารทั้ง 3 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์เหยียบกับระเบิดในพื้นที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน พร้อมมอบสิ่งของจำเป็นให้กับกำลังพลในพื้นที่
“ขอส่งกำลังใจอย่างสุดหัวใจถึง พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน, ส.อ.ปฏิพัทธิ์ ศรีลาศักดิ์, และ พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญและเสียสละ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราคนไทยต้องยกย่องเป็นแบบอย่าง โดยที่ทุกท่านได้รับกำลังใจอย่างดีจากครอบครัว และรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการรับใช้ชาติ ดิฉันขอแสดงความเคารพนับถือในความเสียสละที่มีต่อประเทศชาติของกำลังพลทุกท่านที่ปฏิบัติหน้าที่ เพื่อพี่น้องประชาชนอยู่ในขณะนี้ ตลอดจนได้ทราบว่าทางกระทรวงกลาโหมกำลังเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมถึงเก็บกู้กับระเบิดในพื้นที่อย่างเร่งด่วน ที่สำคัญจะมีมาตรการเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้อย่างเต็มที่” น.ส.แพทองธารระบุ
น.ส.แพทองธาร ระบุด้วยว่า ที่ผ่านมารัฐบาลและกองทัพได้ดำเนินการทุกอย่างด้วยความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ในการดูแลความปลอดภัยของกำลังพล และพี่น้องประชาชน และรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของประเทศ เพื่อให้พื้นที่ชายแดนกลับคืนสู่ความสงบ และปลอดภัยโดยเร็วที่สุดค่ะ ขอส่งกำลังใจให้กับกำลังพลทุกๆ ท่านค่ะ
นายกฯ บอก 3 พลทหารกำลังใจดี
เมื่อเวลา 11.40 น. ที่ฝูงเครื่องบิน กองการบิน ศูนย์การเคลื่อนย้ายกองทัพบก (ขส.ทบ.) ดอนเมือง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์หลังลงพื้นที่เยี่ยมทหารชุดลาดตระเวน ที่ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดระหว่างลาดตระเวน ที่ช่องบก อ.น้ำยืนว่า ตนได้พบกับทหารทั้ง 3 ท่านและได้เจอกับครอบครัวของทั้ง 3 ท่าน ซึ่งทุกคนยังมีความกระทบกระเทือนทางจิตใจ แต่ครอบครัวได้ซัพพอร์ตดีมาก และทางกองทัพที่เป็นผู้บังคับบัญชาก็ดูแลดีมาก ทุกคนบอกมีกำลังใจที่ดี พ่อแม่ของเขาก็บอกว่าภูมิใจในลูกชายที่ทำเพื่อประเทศชาติก็รู้สึกดีใจกับเขาด้วยที่คนรอบข้างเป็นกำลังใจที่สำคัญทำให้ทหารทั้ง 3 คนมีกำลังใจที่ดี และทหาร 1 ท่านที่เป็นหัวหน้าสามารถลุกและเดินมาให้กำลังใจทหารอีก 2 คนได้แล้ว
เมื่อถามว่าเหตุการณ์แบบนี้จะทำให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เสียกำลังใจหรือไม่ โดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม กล่าวว่า ไม่เสียขวัญกำลังใจครับ ด้าน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนมาเป็นตัวแทนคณะรัฐมนตรีให้กำลังใจนายทหารทั้ง 3 ท่าน
เมื่อถามว่าจากกรณีที่เกิดขึ้นจะมีการเยียวยาอะไรเพิ่มเติมจากที่มีอยู่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า รมช.กลาโหมกำลังดูเรื่องมาตรการอยู่ทั้งหมด เมื่อถามว่าทางครอบครัวเรียกร้องอะไรบ้าง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่มีเลย และมีนายทหารคนหนึ่งที่ภรรยาท้องอยู่บอกว่าได้ลูกชาย ตนจึงให้กำลังใจไปว่าคุณพ่อเก่งมาก ทุกคนมีกำลังใจที่ดี ซึ่งคณะรัฐมนตรีก็ได้ฝากกำลังใจมา เมื่อถามว่าเห็นว่าทหารในพื้นที่อยากได้น้ำดื่มเพิ่ม น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า จริงๆมีหลายส่วน ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ทหารไปว่าเป็นอย่างไร ทางรัฐบาลพร้อมสนับสนุนอยู่แล้ว และสส.ในพื้นที่ก็ร่วมลงพื้นที่ด้วย ก็พร้อมให้การสนับสนุน แต่เราต้องดูเรื่องความปลอดภัยของทหาร ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชาอีกทีว่าสามารถนำน้ำไปให้ตรงไหนได้บ้าง เพราะน้ำที่เป็นขวดอาจมีปัญหาในภายหลังก็แล้วแต่ทางกองทัพเลยว่าจะจัดการอย่างไร