TISCO ESU ชี้ “ทองคำ” ยังเป็นหลุมหลบภัย 

Date:

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) ชี้ “ทองคำ” ยังเป็น “หลุมหลบภัย” ที่น่าจับตา ท่ามกลางความท้าทายของเศรษฐกิจโลกและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ พร้อมแนะนำระยะกลางถึงยาว “ทยอยลงทุน” ในช่วงที่ราคาปรับฐาน คาดในปีนี้ราคาทองคำทรงตัวในกรอบ 3,200 – 3,500 ดอลลาร์ฯ ต่อออนซ์ ขณะที่ระยะสั้น Upside ยังมีจำกัด 

นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) เปิดเผยว่า ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงกดดันตลาดโลก “ทองคำ” ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าจับตาในฐานะ “หลุมหลบภัย” สำหรับนักลงทุน โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนสูง หรือเมื่อเศรษฐกิจเผชิญกับความไม่แน่นอน หรือช่วงที่มีความตึงเครียดจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์สูง หรือช่วงที่ปัจจัยต่าง ๆ เกิดขึ้นพร้อมกัน  ซึ่งในอดีตทองทำมักให้ผลตอบแทนเป็นบวกเมื่อเทียบกับความเสี่ยง (Sharpe Ratio) 

TISCO ESU จึงแนะนำให้ “ทยอยลงทุน” อย่างระมัดระวังในช่วงที่ราคาปรับฐาน เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตในระยะกลางถึงยาว โดยปัจจัยสนับสนุนสำคัญ ได้แก่ 1) การเข้าซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลก ที่ยังมีแนวโน้มสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต สะท้อนความต้องการบริหารความเสี่ยงในช่วงที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลมีความผันผวนสูง 2) ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์์ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่อาจรุนแรงขึ้น ความตึงเครียดระหว่างจีนกับไต้หวันซึ่งเป็นความเสี่ยงระยะยาว รวมถึงความไม่แน่นอนในกรณีรัสเซีย – ยูเครน ที่แม้จะดูมีความคืบหน้า แต่ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน และ 3) ภาระหนี้ของสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดมีการเสนอแผนเพิ่มการขาดดุลการคลังอีกกว่า 3.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วง 10 ปีข้างหน้า ซึ่งอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นในค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในระยะยาว 

อย่างไรก็ดี แม้ราคาทองคำจะปรับขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยในเดือนกรกฎาคมราคาทองคำปรับขึ้นสู่ระดับ 3,400 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ จากแรงซื้อเพื่อป้องกันความเสี่ยงของนักลงทุน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และคณะทำงานออกมากดดันนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อย่างต่อเนื่อง รวมถึงความกังวลต่อการกลับมาใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ในวันที่ 1 สิงหาคม  

ในระยะสั้น TISCO ESU ประเมินว่า ราคาทองคำอาจมี Upside ค่อนข้างจำกัด หากสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองเริ่มคลี่คลาย ซึ่งจากแบบจำลองที่ใช้วิเคราะห์ราคาทองคำเทียบกับตัวชี้วัดเศรษฐกิจ พบว่าราคาทองคำมีความแปรผัน (Premium) ราว 10% จากปัจจัยมหภาค ประกอบด้วย 1) สัญญาการซื้อทองคำสุทธิล่วงหน้า 2) ดัชนีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ 3) คาดการณ์เงินเฟ้อระยะยาว 4.1) ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและ 4.2) ดัชนี S&P500 5) ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และ 6) ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนระหว่างตราสารหนี้ภาคเอกชนชั้นดีและพันธบัตรรัฐบาล (Credit Spread)  

“ปัจจัยมหภาคที่ผลักดันราคาทองคำให้สูงกว่าระดับพื้นฐานมีหลายด้าน ซึ่งจากแบบจำลองที่เรานำมาใช้ บ่งชี้ว่า ราคาทองคำในปัจจุบันสูงกว่าระดับที่ควรจะเป็นตามปัจจัยเศรษฐกิจราว 10% และยังสูงกว่าค่าคาดการณ์ของตลาด  ณ สิ้นปี 2568 ราว 6% ซึ่งท่ามกลางความไม่แน่นอนที่ยังปกคลุมเศรษฐกิจโลก เราคาดว่าราคาทองคำจะทรงตัวในกรอบกว้างประมาณ 3,200 – 3,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ในช่วงที่เหลือของปีนี้” นายคมศร กล่าว 

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

EXIM BANK ร่วม พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พระพันปีหลวง

EXIM BANK ร่วมผลัดเวรเฝ้าฯ ในพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ออมสิน เปิดพิกัด “โรงครัวออมสิน” ช่วยชาวหาดใหญ่

ออมสิน เปิดพิกัด “โรงครัวออมสิน” รุกเติมเสบียงช่วยชาวหาดใหญ่ต่อเนื่อง

ทิพยประกันภัย สืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา

ทิพยประกันภัย สืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา ครั้งที่ 56 “อาบป่า ห่มดิน รักษ์สิ่งแวดล้อม”

ทิพยประกันภัย ให้การต้อนรับทีมนางสาวถิ่นไทยงาม

ทิพยประกันภัย ให้การต้อนรับทีมนางสาวถิ่นไทยงาม ประจำปี 2568 และ TIP ICONIC STAR