พาณิชย์ ระดมโรงพยาบาล ให้ประชาชนซื้อยานอกโรงพยาบาลได้

Date:

นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า “ ตามนโยบายรัฐบาลและท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ท่านศุภจี สุธรรมพันธุ์ ที่มอบนโยบาย Quick Big Win ในการลดค่าครองชีพประชาชน กรมการค้าภายใน (DIT) ร่วมกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และสมาคมโรงพยาบาลเอกชน จัดประชุมเพื่อยกระดับการให้บริการและขอความร่วมมือจากเครือข่ายโรงพยาบาลต่างๆ ในการแจงรายละเอียดราคายาและเพิ่มทางเลือกให้ประชาชนสามารถเลือกซื้อยาจากร้านขายยาข้างนอกได้ ภายใต้โครงการ “ สุขกายสบายกระเป๋า ”โดยก่อนหน้านี้ มีโรงพยาบาลเข้าร่วมโครงการ 5 เครือ จาก 11 เครือ แต่ปัจจุบันได้รับความสนใจเข้าร่วมเพิ่มขึ้นเป็น 9 เครือ และยังมีโรงพยาบาลอื่นที่ไม่ได้สังกัดเครืออีกหลายแห่งเข้าร่วม ทำให้จำนวนโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการมากกว่า 300 แห่ง จากสมาชิก 354 แห่ง ได้แก่ เครือ BDMS (ดุสิตเวชการ อาทิ รพ.กรุงเทพ รพ.พญาไท เป็นต้น)  เครือโรงพยาบาลธนบุรี เครือ BCH (กลุ่มโรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ และโรงพยาบาลการุญเวช) เครือบางปะกอก-ปิยะเวช เครือรามคำแหง-วิภาราม เครือ PCL (พริ๊นซิเพิล) เครือจุฬารัตน์ เครือนวมินทร์ และเครือสินแพทย์ และโรงพยาบาลหัวเฉียว โรงพยาบาลวิภาวดี โรงพยาบาลบีแคร์เป็นต้น เข้าร่วมประชุม เพื่อเตรียมความพร้อมอย่างรอบด้านในการปฏิบัติร่วมกันตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “ สุขกาย สบายกระเป๋า”เพื่อยกระดับความร่วมมือในการเปิดเผยค่ายาในโรงพยาบาลเอกชน รวมถึงเพิ่มทางเลือกให้ผู้ป่วยสามารถเลือกซื้อยาภายนอกโรงพยาบาลได้

นายวิทยากร กล่าวต่อว่า “ โดยความร่วมมือดังกล่าวเป็นยกระดับการให้บริการผู้บริโภค ในการขอทราบราคายาและเลือกซื้อยาจากภายนอกโรงพยาบาลได้” โดยถือเป็น Quick Big Win MOU มุ่งให้โรงพยาบาล เอกชนช่วยแบ่งเบาภาระค่าของชีพ ขั้นตอนต่อไป DIT และ อย. จะต้องเตรียมความพร้อม ในการกำหนดคุณสมบัติและลงทะเบียน ร้านขายยาที่มีกว่า 20,000 แห่ง ซึ่งจะประชุมในวันที่ 10 ตุลาคม 68 นี้ โดยหลังจากมีการหารือกันทุกด้านแล้วจะเริ่ม Kick off โครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า” ในวันที่ 28 ตุลาคม 2568 และหลังจากนั้นทุกโรงพยาบาลและร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการจะมีป้ายประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบเพื่อใช้บริการได้อย่าวทั่วถึงต่อไป

นายวิทยากร กล่าวเพิ่มว่า “ในการแสดงรายละเอียดของโรงพยาบาล จะมี“รายการยาและค่ายา” อย่างชัดเจนในใบแจ้งค่าใช้จ่าย ใบแจ้งหนี้ หรือใบเสร็จรับเงิน เพื่อให้ผู้รับบริการสามารถตรวจสอบและเปรียบเทียบราคาได้ และ จะได้รับใบสั่งยาเพื่อไปเลือกซื้อยาจากร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการ ภายนอกโรงพยาบาล ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาล โดยทุกฝ่ายจะมีการร่วมมือประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจแก่ประชาชนเกี่ยวกับสิทธิในการรับบริการและการเลือกซื้อยาให้ทั่วถึง โดยในเฟสต่อไปจะขยายความร่วมมือไปยังคลินิกต่าง ๆ และเข้าไปดูแลเรื่อง มี โครงสร้างราคาต้นทุนยาให้เหมาะสมและเป็นธรรม DIT ย้ำว่าแผนนี้มุ่งเน้นให้ประชาชนได้รับสิทธิ์ในการรักษาพยาบาลอย่างเหมาะสม”

”วันนี้กรมการค้าภายใน ได้หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา และเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในการจัดทำ MOU เพื่อเปิดเผยราคายาก่อนการซื้อ เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือก โดยเน้นให้ประชาชนคนไทยและชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักในไทย สามารถเข้ารับการตรวจรักษาจากแพทย์ของโรงพยาบาลในกรณีเร่งด่วนหรือฉุกเฉินได้ แต่ยังคงเลือกซื้อยาจากภายนอกโรงพยาบาลได้ ”

“ความร่วมมือของทุกฝ่ายในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของความร่วมมือเพื่อวัตถุประสงค์อย่างเดียวกัน คือ แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน เพิ่มทางเลือก และยกระดับความร่วมมือในการให้บริการของโรงพยาบาลเอกชน นอกจากนี้ ยังเป็นการเพิ่มโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงบริการในโรงพยาบาลเอกชนมากขึ้น และช่วยลดความแออัดของโรงพยาบาลภาครัฐในภาพรวมด้วย“ นายวิทยากร กล่าวทิ้งท้าย

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

นายกฯ อนุทิน เปิดมหกรรมไหลเรือไฟโลกนครพนม

นายกฯ อนุทิน เปิดมหกรรมไหลเรือไฟโลกนครพนม ขอความขมขื่นคนไทยไหลทิ้งแม่โขง ความสุขสามัคคีจงบังเกิดกับราชอาณาจักรไทย

คปภ. Kick Off นโยบาย “OIC ESG Empower”

คปภ. Kick Off นโยบาย “OIC ESG Empower” ขับเคลื่อนสู่พนักงาน คปภ. ทั่วประเทศ ร่วมสร้างองค์กรแห่งความยั่งยืนด้าน ESG อย่างเป็นรูปธรรม

นายกฯ อนุทิน พบชาวนครพนม แจ้งข่าวดี “คนละครึ่งพลัส” ผ่านครม. แล้ว

นายกฯ อนุทิน พบชาวนครพนม แจ้งข่าวดี “คนละครึ่งพลัส” ผ่านครม. แล้ว ฝาก “กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน” แจ้งลูกบ้านรีบลงทะเบียน

ธ.ทิสโก้ ชี้เป้า 4 ปัญหา “เรื่องเงิน” ที่คนไทยมักพลาด 

ธ.ทิสโก้ชี้เป้า 4 ปัญหา “เรื่องเงิน” ที่คนไทยมักพลาด ชวนวางแผนให้ถูกต้อง รับ“วันวางแผนการเงินโลก”