ค่าเงินบาทแข็งค่า 32.61 บาทต่อดอลลาร์

Date:

กนง.

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  32.61 บาทต่อดอลลาร์

“แข็งค่าขึ้น”จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ณ ระดับ  32.72 บาทต่อดอลลาร์ (ระดับปิด ณ วันที่ 10 ตุลาคม)

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันศุกร์สัปดาห์ก่อนหน้าและวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันหยุดของตลาดการเงินไทย เงินบาท (USDTHB) ทยอยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง และมีจังหวะแข็งค่าทดสอบโซนแนวรับ 32.50 บาทต่อดอลลาร์ (แกว่งตัวในกรอบ 32.50-32.74 บาทต่อดอลลาร์) 

สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินเผชิญความปั่นป่วน หลังประเด็นความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ กลับมาร้อนแรงขึ้นอีกครั้ง

สำหรับในสัปดาห์นี้ เรามองว่า ควรรอติดตาม ประเด็นความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ รวมถึง ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด พร้อมรอลุ้นรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน

สำหรับ แนวโน้มเงินบาท เราประเมินว่า โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทได้อ่อนกำลังลง หลังความไม่แน่นอนของสถานการณ์ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ได้หนุนให้ผู้เล่นในตลาดเลือกที่จะเข้าถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย อย่าง ทองคำ แม้ว่า เงินดอลลาร์จะทยอยกลับมาแข็งค่าขึ้นก็ตาม หลังเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) พลิกกลับมาอ่อนค่าลงทะลุโซน 152 เยนต่อดอลลาร์ อีกครั้ง หลังผู้เล่นในตลาดเริ่มทยอยคลายกังวลต่อประเด็นความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ลงบ้าง (จากโพสล่าสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บน Truth Social ที่ระบุว่า “The USA wants to help China, not hurt it”) จุดกระแส TACO (Trump Always Chickens Out) Trade ให้กลับมาอีกครั้ง

ทั้งนี้ เรายังมีความกังวลว่า เงินบาทอาจเสี่ยงอ่อนค่าลงต่อได้ โดยเฉพาะ หากราคาทองคำ (ที่ยังคงปรับตัวสูงขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์) เผชิญแรงขายทำกำไรและเริ่มเข้าสู่ช่วงการพักฐาน สอดคล้องกับข้อมูลสถิติในอดีต ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่กดดันเงินบาทได้ นอกจากนี้ หากตลาดกลับมากังวลประเด็นความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ มากขึ้น จนกดดันให้เงินหยวนจีน (CNH) อ่อนค่าลง ก็อาจส่งผ่านแรงกดดันด้านอ่อนค่ามายังเงินบาทได้ ทว่า เงินบาทก็อาจพอได้แรงหนุน หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นบ้าง พร้อมกับการแข็งค่าขึ้นของเงินเยนญี่ปุ่น และหากอ้างอิงกลยุทธ์ Trend-Following เรามองว่า เงินบาทจะยังอยู่ในแนวโน้มอ่อนค่า จนกว่า เงินบาทจะพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นทะลุโซนแนวรับ 32.30-32.40 บาทต่อดอลลาร์ ได้อย่างชัดเจน

ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า เงินดอลลาร์คงเสี่ยงเผชิญ Two-way risk โดยต้องจับตาทั้งประเด็นสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ รวมถึงสถานการณ์การเมืองญี่ปุ่นและฝรั่งเศสที่จะส่งผลกระทบต่อเงินเยนญี่ปุ่นและเงินยูโรได้ ทั้งนี้ เงินดอลลาร์อาจเคลื่อนไหวไร้ทิศทางที่ชัดเจน จนกว่าตลาดจะรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ

เราคงคำแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรเลือกใช้เครื่องมือในการปิดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น ท่ามกลางความผันผวนของเงินบาท รวมถึงสกุลเงินอื่นๆ ที่สูงขึ้นกว่าช่วงอดีตที่ผ่านมาพอสมควร โดยผู้เล่นในตลาดอาจเลือกใช้เครื่องมือเพิ่มเติม อาทิ Options หรือ Local Currency ควบคู่ไปกับการปิดความเสี่ยงผ่านการทำสัญญา Forward 

มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 32.30-32.85 บาท/ดอลลาร์

ส่วนกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วงโมงข้างหน้า คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.45-32.65 บาท/ดอลลาร์ 

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

ออมสิน ชวนออมเงินกับเงินฝากดอกเบี้ยดี

เปิดฝากต่อ ! กับเงินฝาก 5/7 เดือน จาก ออมสิน รับดอกเบี้ยดี ฝากเลยที่ออมสินทุกสาขา วันนี้ – 31 ต.ค. 68

ไมโครชิพ ขยายลงทุนไทย ดันไทยศูนย์กลางทดสอบชิปของภูมิภาค

ไมโครชิพ (Microchip) ยักษ์ใหญ่ชิปจากสหรัฐอเมริกา เดินหน้าขยายลงทุนในไทย ยอดลงทุนสะสมตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทรวมกว่า 3.8 หมื่นล้าน

คปภ. เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นต่อร่างแผนพัฒนาการประกันภัย

คปภ. เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นต่อร่างแผนพัฒนาการประกันภัย ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2569–2573) สู่ระบบประกันภัยที่มั่นคงและยั่งยืน

orbix INVEST ได้มาตรฐาน ISO

orbix INVEST ผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัลเจ้าแรกในไทย ที่ได้มาตรฐาน ISO