นบข. เห็นชอบเงิน 1.5 แสนล้านบาท อุ้มชาวนาปี 65/66

Date:

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ครั้งที่ 2/2565 ที่มีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุม เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (8 กันยายน 2565) ณ ห้องบุรฉัตรไชยากร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

นบข. มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และกรอบวงเงิน เพื่อใช้สำหรับจ่ายชดเชยและเป็นค่าบริหารจัดการโครงการ และมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ประกอบด้วย 1. โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 (ปีที่ 4) วงเงิน 86,740.31 ล้านบาท 2. มาตรการคู่ขนานโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 (ปีที่ 4) วงเงิน 8,022.69 ล้านบาท 3. โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 วงเงิน 55,364.75 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 150,127.75 ล้านบาท โดยมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการ นบข. นำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาตามระเบียบต่อไป ทั้งนี้ ครม. ได้อนุมัติโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เพื่อเป็นหลักประกันในรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว และมาตรการคู่ขนานเพื่อสร้างเสถียรภาพราคาข้าว ตามข้อเสนอของ นบข. ต่อเนื่อง 3 ปี ตั้งแต่ปีการผลิต 2562/63 จนถึงปีการผลิต 2564/65

พร้อมกันนี้ นบข. ได้พิจารณาตามที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) รายงานว่า ไม่สามารถปิดบัญชีโครงการข้าวตามนโยบายของรัฐบาล จำนวน 7 โครงการได้ ประกอบด้วย (1) โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2551 (2) โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปี 2551/52 (3) โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2552 (4) โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 (5) โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2555 (6) โครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2555/56 ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 (7) โครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2556/57 เนื่องจากการดำเนินการระบายข้าวคงเหลือยังไม่แล้วเสร็จ และการดำเนินการทางกฎหมายยังไม่แล้วเสร็จ นบข. จึงมีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาโครงการฯ ออกไป จากเดิม สิ้นสุด ก.ย. 65 เป็น สิ้นสุด ก.ย. 66 โดยให้ อคส. เร่งรัดการระบาย และ อคส./อ.ต.ก. เร่งรัดการดำเนินการทางกฎหมาย และให้รายงานฝ่ายเลขานุการฯ ทราบเป็นประจำทุกเดือน

นบข. มีมติเห็นชอบการขยายระยะเวลาการดำเนินงานโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ จาก ก.ย. 65 เป็น ก.ย. 66 ตามที่กรมการข้าวเสนอ โดยให้เร่งดำเนินการแล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2566 และให้รายงานความคืบหน้าต่อ นบข. ทั้งนี้ ครม. มีมติเห็นชอบโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ กรอบวงเงิน 9,696.522 ล้านบาท เมื่อ 11 เม.ย. 60 ปัจจุบันมีผลการดำเนินการจำนวน 4,636 กลุ่ม พื้นที่ 847,373 ไร่ คิดเป็น 85% การจ่ายเงิน (T1+T2+T3) จ่ายแล้วทั้งสิ้น 4,106.81 ล้านบาท และอยู่ระหว่างขอรับจัดสรรงบประมาณ งบกลาง เพื่อจ่ายให้เกษตรกรในส่วนที่ยังค้างจ่าย 3,282.43 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ นบข. รับทราบแนวโน้มสถานการณ์การส่งออกข้าวไทย ปี 2565 โดยแนวโน้มการส่งออกข้าวไทยปี 2565 กำหนดเป้าหมายการส่งออกอยู่ที่ 7.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 7 ล้านตัน โดยในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2565 (ม.ค.-ก.ค.) ไทยส่งออกข้าวได้ 4.09 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 54% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคิดเป็น 55% ของเป้าหมายการส่งออกแล้วทำให้การส่งออกข้าวไทยในปี 2565 มีแนวโน้มที่จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมีปัจจัยสนับสนุน คือ 1) ปริมาณน้ำฝนและน้ำในอ่างเก็บน้ำมีเพียงพอต่อการเพาะปลูกทำให้มีผลผลิตมาก 2) ราคาข้าวไทยอยู่ในระดับที่แข่งขันได้ 3) ค่าเงินบาทต่อเหรียญสหรัฐฯ อยู่ในระดับที่อ่อนค่า 3) ไทยส่งออกข้าวไปยังอิรักได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก เฉลี่ยมากกว่า 100,000 ตัน/เดือน 4) อานิสงส์จากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ทำให้มีการนำเข้าข้าวไทยไปใช้ทดแทนข้าวสาลีและข้าวโพดในอุตสาหกรรมผลิตอาหารสัตว์เพิ่มขึ้น และมีการนำเข้าข้าวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารภายในประเทศ 5) บังกลาเทศปรับลดภาษีนำเข้าข้าวนึ่งลงเหลือ 25% จากเดิมที่ 62.5% ซึ่งอาจเป็นโอกาสต่อการส่งออกข้าวนึ่ง ขณะที่มีอุปสรรค คือความต้องการนำเข้าข้าวบางส่วนเพื่อนำไปใช้ทดแทนข้าวสาลีมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลง และราคาปัจจัยการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้น เช่น ปุ๋ย

นบข. ยังรับทราบสถานการณ์ข้าวไทย โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรคาดการณ์ ปี 2565/66 รอบที่ 1 (นาปี) พื้นที่เพาะปลูก 62.84 ล้านไร่ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 0.02 ล้านไร่ (+0.03%) พื้นที่เก็บเกี่ยว 60.58 ล้านไร่ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 0.73 ล้านไร่ (+1.22%) ผลผลิต 26.92 ล้านตันข้าวเปลือก เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 0.55 ล้านตันข้าวเปลือก (+2.09%) ขณะที่การขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 รอบที่ 1 ขึ้นทะเบียน 4.677 ล้านครัวเรือน พื้นที่เพาะปลูก 62.68 ล้านไร่ รอบที่ 2 ขึ้นทะเบียน 0.442 ล้านครัวเรือน พื้นที่เพาะปลูก 7.00 ล้านไร่ และ ปี 2565/66 รอบที่ 1 (ณ 30 ส.ค. 65) เพาะปลูก เม.ย.- ต.ค. 65 ขึ้นทะเบียนแล้ว 4.078 ล้านครัวเรือน พื้นที่เพาะปลูก 55.00 ล้านไร่

ด้านราคาข้าวเปลือกในประเทศ ปัจจุบัน (5 ก.ย. 65) ข้าวเปลือกหอมมะลิ 14,200-15,300 บาท/ตัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน (5 ก.ย. 64) 41.83% ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว 9,500-10,000 บาท/ตัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน (5 ก.ย. 64) 9.55% ข้าวเปลือกเจ้า 9,300-9,500 บาท/ตัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน (5 ก.ย. 64) 19.75% ข้าวเปลือกปทุมธานี 10,600-11,100 บาท/ตัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน (5 ก.ย. 64) 11.86% โดยสถานการณ์ราคาข้าวเปลือกเมื่อเทียบกับปีก่อน คือ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการของประเทศคู่ค้าเพิ่มขึ้นจากแนวโน้มค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาวราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการบริโภคภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้น เพราะสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ประกอบกับผลผลิตข้าวเหนียวนาปีลดลงจากปีที่ผ่านมา ข้าวเปลือกเจ้า ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากคำสั่งซื้อล่วงหน้าของประเทศคู่ค้าเพิ่มสูงขึ้น จากความกังวลเรื่องความมั่นคงด้านอาหาร ประกอบกับมีความต้องการใช้เพื่อผลิตอาหารสัตว์เพิ่มขึ้น และ ข้าวเปลือกปทุมธานี ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการของประเทศคู่ค้าเพิ่มขึ้นจากแนวโน้มค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง

สำหรับแนวโน้มสถานการณ์ด้านราคาข้าว ปัจจัยบวก ได้แก่ ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ส่งผลให้ราคาส่งออกข้าวสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ สถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายส่งผลให้อุปสงค์ฟื้นตัว ปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ลดลง และตลาดต่างประเทศมีแนวโน้มต้องการนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหาร จากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ขณะที่ปัจจัยลบ ได้แก่ ค่าระวางเรือปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกข้าวได้

“รอง นรม.และรมว.พาณิชย์ ย้ำขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประชุม ขับเคลื่อนการปฏิบัติ และรายงานความคืบหน้าของการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ข้าวไทยที่เป็นรูปธรรมต่อที่ประชุม นบข. ทุกครั้ง และให้กรมการข้าวให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ และสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดการประกวดพันธุ์ข้าว เพื่อให้ได้พันธุ์ข้าวพันธุ์ใหม่ พร้อมกับให้เร่งรัดการรับรองพันธุ์ข้าว เพื่อให้บรรลุยุทธศาสตร์ข้าวไทย” น.ส.รัชดา กล่าว

Share post:

spot_img

Related articles

“พิชัย”  เปิดเวทีชวนนักธุรกิจ นักลงทุนสหราชอาณาจักร ดึงเข้าอีอีซี

“พิชัย”  เปิดเวทีชวนนักธุรกิจ นักลงทุนสหราชอาณาจักร ดึงเข้าอีอีซี แลนด์บริดจ์ พร้อมเจรจาปักหมุดให้ไทยอยู่ในโฟกัสชาวโลก

สำรวจความพร้อมของไทย นับถอยหลังสู่ EUDR

กระทรวงพาณิชย์ สำรวจความพร้อมของไทย นับถอยหลังสู่ EUDR เต็มรูปแบบ

พณ. ปลื้ม…ข้าวไทยยืนหนึ่งในแดนจิงโจ้

พณ. ปลื้ม...ข้าวไทยยืนหนึ่งในแดนจิงโจ้ ในงานแสดงสินค้าอาหาร Fine Food Australia 2024

“พิชัย” จับมือ “เอเชียนซูเปอร์มาร์เก็ต” ผู้นำเข้ารายใหญ่สหราชอาณาจักร

"พิชัย" จับมือผู้นำเข้ารายใหญ่สหราชอาณาจักร “เอเชียนซูเปอร์มาร์เก็ต” ขยายตลาดสินค้าไทยเพิ่ม พร้อมสั่งทูตพาณิชย์เร่งดันสินค้าเทรนด์รักษ์โลก

Notice: ob_end_flush(): Failed to send buffer of zlib output compression (0) in /home/ozapeumy/public_html/wp-includes/functions.php on line 5427