ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ชี้การคลังเป็นความเสี่ยงถูกลดเครดิต

Date:

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า การที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือปรับมุมมองอันดับเครดิตของประเทศไทยจาก “มีเสถียรภาพ” (Stable Outlook) เป็น “เชิงลบ” (Negative Outlook) แม้ยังคงอันดับเครดิตที่ BBB+ สะท้อนความกังวลหลักต่อฐานะการคลังของไทยที่อ่อนแอลงอย่างต่อเนื่องหลังวิกฤตโควิด ซึ่งอาจจะกลายเป็นปัจจัยหลักที่นำไปสู่การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือในช่วง 1–2 ปีข้างหน้า ซึ่งบทเรียนจากต่างประเทศชี้ต้องมีการลดขาดดุลการคลังอย่างเป็นรูปธรรม 

นางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นในกลุ่มอันดับเดียวกัน (BBB+ หรือ Baa1) จะเห็นว่าฐานะการคลังของไทยอ่อนแอกว่า โดยเฉพาะหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นรวดเร็ว และการขาดดุลการคลังที่ยังสูงต่อเนื่อง ทั้งนี้ ในกรณีเศรษฐกิจไทยเติบโตเพียง 2% ต่อปีในระยะข้างหน้า การขาดดุลการคลังอาจยังอยู่สูงกว่า -4.0% ของ GDP และหนี้สาธารณะมีแนวโน้มแตะกรอบเพดาน 70% ภายในปี 2570 ทั้งนี้ รัฐบาลไทยอยู่ระหว่างการทบทวนแผนการคลังระยะปานกลาง ซึ่งน่าจะเห็นรายละเอียดแผนลดการขาดดุลการคลังที่ชัดเจนขึ้น

ดร.ลลิตา เธียรประสิทธิ์ ผู้บริหารงานวิจัย บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า บทเรียนจากต่างประเทศชี้ให้เห็นว่า ประเทศที่สามารถหลีกเลี่ยงการถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือได้ มักมีการดำเนินนโยบายลดขาดดุลอย่างเป็นรูปธรรม ตัวอย่างเช่น อิตาลี ที่สามารถลดการขาดดุลจาก 8.0% เหลือต่ำกว่า 4.0% ของ GDP ภายในระยะเวลาไม่กี่ปี ผ่านแผนเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย และปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้จ่ายภาครัฐ ขณะที่ฝรั่งเศสซึ่งถูกปรับลดทั้งมุมมองและอันดับเครดิตจากการขาดดุลการคลังที่เพิ่มขึ้น ซึ่งต้องเผชิญกับต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น รวมถึงอันดับความน่าเชื่อถือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลบางรายถูกปรับลดตาม อย่างไรก็ตาม การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไม่ได้หมายความว่าอันดับเครดิตของภาคเอกชนจะถูกปรับลดไปด้วย ขึ้นอยู่กับฐานะทางการเงินของแต่ละบริษัท

นางสาวปริชญา ฤทธิ์สุข นักวิจัย บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า แนวทางลดขาดดุลการคลังของไทยอาจไปที่การเพิ่มรายได้ภาครัฐ เนื่องจากรายจ่ายส่วนใหญ่เป็นรายการที่ปรับลดได้ยาก ในระยะสั้น มาตรการเพิ่มรายได้แบบเฉพาะจุด (Piecemeal) อาจช่วยประคองสถานการณ์ได้บ้าง แต่ในระยะปานกลางถึงยาว การปฏิรูปการคลังอย่างยั่งยืนจำเป็นต้องพึ่งพาการพัฒนาฐานข้อมูลที่มีประสิทธิภาพเพื่อออกแบบนโยบายสวัสดิการอย่างตรงเป้า ควบคู่กับการขยายฐานภาษีและการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

พาณิชย์ เดินหน้าดูแลราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทั้งระบบ

พาณิชย์ ประชุม นบขพ. เดินหน้าดูแลข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทั้งระบบ คงมาตรการรับซื้อ–ปูพรมตรวจเข้มฤดูกาล 68/69

แบงก์ชาติตั้งกองทุน ช่วยค้ำประกันเอสเอ็มอี เข้าถึงสินเชื่อ

คลังชงมาตรการชุดใหญ่ ช่วยเอสเอ็มอี แบงก์ชาติช่วยเสริมตั้งกองทุนช่วยค้ำประกันเพิ่ม ให้สถาบันการเงินมั่นใจปล่อยกู้ได้มากขึ้น

กรมศุลกากร เดินหน้ามาตรการการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

กรมศุลกากร เดินหน้ามาตรการการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (Quick Big Win in Anti-Drug Trafficking)

กยศ. แนะผู้กู้เงินเรียนถูกฟ้องคดีปี 2559 กว่า 1 แสนราย เร่งชำระปิดบัญชี

กยศ. แนะผู้กู้เงินเรียนถูกฟ้องคดีปี 2559 กว่า 1 แสนราย เร่งชำระปิดบัญชี หรือปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อระงับการบังคับคดีในปี 2569