
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีศาลฎีกามีคำพิพากษากลับในคดีภาษีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะโจทก์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการที่กรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีจากการขายหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จำนวน 1.76 หมื่นล้านบาท ว่า วันนี้กรมสรรพากรจะมารายงานตน แต่อย่างไรก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอน โดยอัยการสูงสุดจะมีการดำเนินการสืบทรัพย์ และเข้าสู่การดำเนินการของกรมบังคับคดี แล้วมาที่การดำเนินการของกรมสรรพากร ยืนยันว่าที่ผ่านมากรมสรรพากร มีแนวปฏิบัติในการฟ้องคดีในเรื่องเหล่านี้เป็นจำนวนมาก
เมื่อถามว่า วงเงินเยอะขนาดนี้จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาโดยเฉพาะหรือไม่ รวมถึงต้องมีกรอบระยะเวลาในการดำเนินการอย่างไร นายลวรณ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนต้องรอให้กรมสรรพากรมารายงาน และเมื่อมีความชัดเจนก็จะมีการแถลงให้รับทราบ เมื่อถามว่า หากทรัพย์สินยังอยู่ในต่างประเทศจะดำเนินการสืบทรัพย์ได้หรือไม่ นายลวรณ กล่าวว่า อัยการสูงสุดสามารถสืบทรัพย์ได้
เมื่อถามว่ากรณีดังกล่าวจะเทียบเคียงกับการยึดทรัพย์ในโครงการจำนำข้าวได้หรือไม่ นายลวรณ กล่าวว่า กรณีจำนำข้าวโจทก์ไม่ใช่กรมสรรพากร แต่รอบนี้โจทก์คือกรมสรรพากร ซึ่งอาจจะเป็นคนละบริบทกัน




