ครม. เห็นชอบหลักเกณฑ์ใหม่ ช่วยน้ำท่วมปี 68

Date:

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 (หลักเกณฑ์ฯ) เพิ่มเติม ตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในครั้งนี้มีความรุนแรง ก่อให้เกิดความเสียหายกับประชาชนผู้ประสบภัยเป็นจำนวนมาก ประกอบกับหลักเกณฑ์ฯ ตามมติคณะรัฐมนตรีข้างต้นยังไม่ครอบคลุมความเดือดร้อนในทุกมิติของประชาชน กระทรวงมหาดไทย จึงขอทบทวนหลักเกณฑ์ฯ บางส่วน ภายใต้กรอบวงเงินเดิม เพื่อให้ครอบคลุมผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด โดยการเพิ่มกรณีผู้ที่ได้รับผลกระทบไม่ได้อาศัยอยู่ในอาคารบ้านเรือนที่มีน้ำท่วมขัง แต่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีน้ำล้อมรอบและส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต ติดต่อกันเกินกว่า 7 วันขึ้นไป (เดิมให้เฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในอาคารบ้านเรือนที่มีน้ำท่วมขัง) จะได้รับเงินช่วยเหลือในอัตราครัวเรือนละ 9,000 บาท ด้วย 

ทั้งนี้ มท. แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมว่าจากการปรับหลักเกณฑ์ในครั้งนี้ โดยคาดการณ์ว่าจะมีผู้ที่ได้รับสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมอีกประมาณ 21,176 ครัวเรือน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังไม่เคยได้รับเงินช่วยเหลือจำนวน 9,000 บาท มาก่อน และในกรณีที่มีผู้ประสบอุทกภัยขึ้นใหม่ภายใต้หลักเกณฑ์นี้หากเคยได้รับเงินช่วยเหลือไปแล้ว จะไม่ได้รับเงินช่วยเหลือซ้ำอีก

“ในส่วนของหลักเกณฑ์ฯ ข้ออื่น ๆ เช่น หลักฐานในการขอรับความช่วยเหลือ ขั้นตอนการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การจ่ายเงินของธนาคารออมสิน และแนวทางปฏิบัติงานของจังหวัดมีสาระสำคัญคงเดิมตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

จ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วมเพิ่ม ขั้นบันไดตั้งแต่ 5,000–20,000 บาทต่อครัวเรือน

นายสิริพงศ์ กล่าวว่า สถานการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ มีความรุนแรงก่อให้ความเสียหายกับประชาชนผู้ประสบภัยอย่างรุนแรง และในคราวประชุมคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ (คอภ.) ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2568 นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้มีการศึกษาหาแนวทางการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากกรณีน้ำท่วมขังเป็นระยะเวลานาน กระทรวงมหาดไทย ได้เสนอขอค่าช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้นให้แก่ครอบครัวผู้ประสบอุทกภัย ในกรณีน้ำท่วมขังบริเวณที่อยู่อยู่อาศัยประจำเป็นกรณีพิเศษต่อคณะรัฐมนตรี โดยมอบหมายให้ ปภ. เป็นผู้เสนอของบประมาณ และกำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินดังกล่าว

โดยใช้กรอบวงเงินงบประมาณในการดำเนินการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2569 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น 6,169,986,000 บาท ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 โดยให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เป็นหน่วยรับงบประมาณและจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยผ่านธนาคารออมสิน ให้เบิกจ่ายในงบเงินอุดหนุน ลักษณะเงินอุดหนุนทั่วไป รวมทั้งให้สามารถถัวจ่ายข้ามจังหวัดได้ตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยมอบหมายให้ ปภ. เป็นผู้เสนอของบประมาณ และกำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินดังกล่าว ดังนี้

1. เป็นกรณีอุทภภัยที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อที่อยู่อาศัยประจำในช่วงฤดูฝน ปี 2568 ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ในกรณีน้ำท่วมขังบริเวณที่อยู่อาศัยประจำ จนส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตและไม่สามารถประกอบอาชีพปกติ ทำให้ขาดรายได้

2. เป็นที่อยู่อาศัยประจำที่ประสบอุทกภัย และได้รับผลกระทบกรณีใดกรณีหนึ่ง ดังต่อไปนี้

(1) ถูกน้ำท่วมขัง ติดต่อกันตั้งแต่ 31-60 วัน ให้ความช่วยเหลือ ครัวเรือนละ 5,000 บาท

(2) ถูกน้ำท่วมขัง ติดต่อกันตั้งแต่ 61-90 วัน ให้ความช่วยเหลือ ครัวเรือนละ 10,000 บาท

(3) ถูกน้ำท่วมขัง ติดต่อกันตั้งแต่ 91-120 วัน ให้ความช่วยเหลือ  ครัวเรือนละ 15,000 บาท

(4) ถูกน้ำท่วมขัง ติดต่อกันตั้งแต่ 121 วันขึ้นไป ให้ความช่วยเหลือ ครัวเรือนละ 20,000 บาท

ทั้งนี้ ครัวเรือนผู้ประสบภัย จำนวน 171,302 ครัวเรือน จำนวน 22 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ชัยนาท ชัยภูมิ นครนายก นครปฐม นครสวรรค์ นนทบุรี ปทุมธานี ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ศรีสะเกษ สระบุรี สิงห์บุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี อ่างทอง อุดรธานี และจังหวัดอุบลราชธานี จะได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน และเพื่อให้การดำรงชีพของประชาชนเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

“หลักเกณฑ์ครั้งนี้เป็นการช่วยเหลือประชาชนที่บ้านเรือนถูกน้ำท่วมขังต่อเนื่องเป็นเวลานานจนไม่สามารถดำรงชีวิตหรือประกอบอาชีพได้ตามปกติ โดยกำหนดอัตราการช่วยเหลือเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาน้ำท่วม ตั้งแต่ 31 วันไปจนถึงมากกว่า 121 วัน ซึ่งจะได้รับเงินเยียวยาในอัตรา 5,000–20,000 บาทต่อครัวเรือน และเน้นย้ำการตรวจสอบสิทธิให้มีความถูกต้อง โปร่งใส โดยให้หน่วยงานท้องถิ่นออกหนังสือรับรองผู้ประสบภัย ผ่านการพิจารณาของประชาคมหมู่บ้าน และตรวจสอบซ้ำโดยคณะกรรมการ ก.ช.ภ.จ. และ ก.ช.ภ.อ. เพื่อให้เงินช่วยเหลือไปถึงมือผู้ที่ได้รับผลกระทบ และไม่ให้เกิดการจ่ายซ้ำซ้อน” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

สำนักงานสลากฯ พร้อมออกรางวัลสัญจร งวด 1 ธ.ค. 68 ณ จ.กำแพงเพชร

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (GLO) พร้อมออกสลากสัญจร งวดวันที่ 1 ธ.ค. 2568 ที่ จ.กำแพงเพชร เปิดโอกาสให้ประชาชเข้าร่วมรับชมขั้นตอนการออกรางวัล

นายกฯ อนุทิน แจ้งข่าวดีกลางวงประชุม นบข. ขายข้าวจีนได้ 5 แสนตัน 

นายกฯ อนุทิน แจ้งข่าวดีกลางวงประชุม นบข. ขายข้าวจีนได้ 5 แสนตัน ขอทุกฝ่ายทำหน้าที่เซลส์แมนขายสินค้าไทย

นายกฯ อนุทิน สั่งคลังลุย “แจกเงินคนจน – คนละครึ่ง” เฟส 2

นายกฯ อนุทิน สั่งคลังลุย “แจกเงินคนจน - คนละครึ่ง” เฟส 2 ให้เสร็จภายใน ธ.ค.นี้ จ่ายเงินถึงมือประชาชน ม.ค. 69

ครม. เห็นชอบเห็นชอบ “แมวไทย” เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ

ครม. เห็นชอบเห็นชอบ “แมวไทย” เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ ประเภทสัตว์เลี้ยง