นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวว่า กรมที่ดินในฐานะหน่วยงานผู้รับผิดชอบข้อมูลที่ดินเอกชนได้ให้ความร่วมมือกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงการคลัง เพื่อให้มีการนำข้อมูลการทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ทั้งในรูปแบบการจัดสรรที่ดิน และอาคารชุดไปใช้ในการวิเคราะห์ วิจัย ประเมินอุปสงค์ อุปทาน ราคาอสังหาริมทรัพย์ ในด้านการประเมินสถานการณ์และแนวโน้มการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการสนับสนุนให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์
บรรลุเจตนารมณ์สำคัญในการจัดตั้ง “เพื่อช่วยเหลือทางการเงินให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยตามควรแก่อัตภาพ”
โดยการให้ความร่วมมือในด้านข้อมูลเกี่ยวกับที่ดินผ่านระบบสารสนเทศดังกล่าว ดำเนินการร่วมกันตั้งแต่ พ.ศ. 2550 จนถึงปัจจุบัน ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะได้มีการพัฒนารูปแบบการเชื่อมโยงเพื่อใช้ข้อมูลให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลดิจิทัล ซึ่งมุ่งหวังให้มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับปรุงการทำงานของภาครัฐ เพื่อให้บริการประชาชนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว โปร่งใส และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อไป
นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ พร้อมร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐในการพัฒนาการให้บริการแก่ลูกค้าและประชาชนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงร่วมกับ กรมที่ดิน โดยนายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU)
ว่าด้วยการขอใช้ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ในระบบสารสนเทศที่ดิน เพื่อสามารถนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ โดยจะทำให้การพิจารณาสินเชื่อมีความถูกต้องและแม่นยำ ทำให้ลูกค้าได้รับบริการที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ความร่วมมือระหว่าง ธอส. และกรมที่ดิน นับว่ามีความสำคัญต่อ ธอส. และศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ในการใช้ประเมินสถานการณ์และแนวโน้มการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการพัฒนาระบบดิจิทัลของธนาคารในระยะยาว โดยเฉพาะด้านกระบวนการประเมินราคาหลักประกัน นอกจากนี้ การใช้ฐานข้อมูลที่มีความถูกต้องและเชื่อถือได้จากกรมที่ดินจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในด้านการประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ของธนาคารได้เป็นอย่างดี
