
เมื่อเวลา 15.25 น. วันที่ 9 ธ.ค. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 6/2568 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วมการประชุมอย่างพร้อมเพรียง
โดยนายกฯ กล่าวว่า ขออภัยทุกท่านมา ณ ที่นี่ด้วยวันนี้ถือเป็นครั้งแรก ตนได้มีโอกาสพบกับทุกท่านพร้อมหน้าพร้อมตา ต้องถือว่าเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ในห้องนี้พวกเรามีความสนิทสนมรักใคร่กันดีอยู่แล้ว ตนขอขอบคุณในความร่วมมือของทุกท่านที่มาร่วมประชุมกันในวันนี้ สิ่งไหนที่มอบให้กับตนในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ต้องขอยืนยันให้ทุกท่านมีความมั่นใจคลายความกังวลใจว่าตั้งแต่ตนได้เข้ามาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีและได้ดำเนินการบริหารราชการแผ่นดินอย่างเต็มที่ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ตนได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากพวกท่านทุกคนในฐานะที่ท่านเป็นหัวหน้าส่วนราชการ ไม่มีสิ่งใดที่ตนรู้สึกเคลือบแคลงใจหรือรู้สึกว่าไม่ได้รับความร่วมมือจากพวกท่านเลยแม้แต่น้อย ต้องขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ถือว่าเป็นการประชุมที่ตนให้ความสำคัญ เพราะท่านทั้งหลายคือหัวหน้าส่วนราชการ ซึ่งคือผู้ที่จะต้องขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดินให้เกิดความต่อเนื่อง ไม่ว่าจะมีสถานการณ์ทางการเมืองใดๆที่เกิดขึ้น เวลาของรัฐบาลของตนมันก็ต้องนับถอยหลังแล้ว เพราะเรามีภารกิจที่เข้ามาเพื่อดำเนินการทางการเมืองให้เรียบร้อย และคืนอำนาจกลับคืนสู่ประชาชน เพื่อให้เขาได้ตัดสินใจมีรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาดำเนินการต่อไป ดังนั้นความสำคัญของหัวหน้าส่วนราชการ ที่ต้องคอยประคับประคองขับเคลื่อนนโยบายต่างๆที่รัฐบาลที่ผ่านมารวมถึงรัฐบาลของตนด้วย ก็ขอให้ท่านได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ เพราะหากมีการยุบสภา ซึ่งไม่นานจากนี้แล้ว เพียงแต่ยังไม่รู้วัน ว. เวลา น. ที่แน่นอนเมื่อไหร่เท่านั้นเอง แต่เต็มที่ไม่เกินวันที่ 31 ม.ค.2569 แต่ท่าทางจะไม่ถึงมากกว่า
นายกฯ กล่าวอีกว่า ดังนั้นในขณะที่เป็นรัฐบาลรักษาการตนขออยากให้คำมั่นสัญญากับพวกท่านในฐานะที่ท่านเป็นข้าราชการประจำ หัวหน้าส่วนราชการ ว่าตนจะเคร่งครัดทั้งมารยาท กฎระเบียบที่รัฐบาลรักษาการได้ถูกกำหนดให้ดำเนินการ ท่านไม่ต้องมีความกังวลใดๆว่าตนจะทำสิ่งใดที่นอกเหนือข้อกำหนดในด้านของกฎหมาย ด้านธรรมเนียม หรือในด้านหลักปฏิบัติ สิ่งที่ตนทิ้งไว้ให้พวกท่านต้องถือเป็นทุกขลาภ เพราะมีภารกิจและมีนโยบายมากมายที่จะต้องได้รับดำเนินการมากมายไปยังประชาชน ขอให้ท่านไม่ต้องแผ่ว สิ่งที่มันผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี(ครม.)ไปแล้ว หรือผ่านรัฐสภาไปแล้ว ก็ขอให้ท่านได้ดำเนินการขับเคลื่อนเหยียบคันเร่งให้เต็มที่ เพราะทุกสิ่งจะได้ตกไปถึงประชาชนและเป็นประโยชน์กับชาติด้วยความรวดเร็ว เพราะมีปัญหาเฉพาะหน้ามากมาย สืบเนื่องมาจากภัยพิบัติปัญหาใหญ่ของชาติ ไม่แพ้กับปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมคือเรื่องสแกมเมอร์ เรื่องอาชญากรรมจากต่างชาติ อาชญากรรมเทคโนโลยี
นายกฯ กล่าวว่า และล่าสุดก็ยังมีเรื่องที่เรามีความขัดแย้งกับกัมพูชา ซึ่งเราจะต้องร่วมกันเดินหน้าต่อไป หยุดไม่ได้ เพราะถ้าหยุดก็แพ้ทันที เราไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากเดินหน้าต่อด้วยการผนึกกำลังกัน และสุดท้ายคือเรื่องของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ดำเนินมาอยู่ในระยะเวลานานพอสมควร ซึ่งเรากำลังจะไปในทิศทางที่ดีขึ้นและพยายามที่จะร่วมมือกันในการเติบโตทางเศรษฐกิจ เพิ่มความเป็นอยู่ และเพิ่มรายได้ที่ดีให้กับประชาชน แต่มักจะมีเหตุที่มาคอยเป็นอุปสรรคในการดำเนินการ ตนยังเชื่อว่าด้วยความเข้มแข็งและการจัดวางระบบของราชการฝ่ายประจำที่ท่านได้บริหารจัดการอยู่นั้น ตนมีความเชื่อมั่นและไม่มีความกังวลใดๆหากพวกท่านได้ร่วมมือกันเชื่อมั่นว่าท่านจะนำพาให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีอย่างแน่นอน ทุกนโยบายที่รัฐบาลได้ประกาศไว้นั้นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกท่านในการผลักดันอย่างเต็มกำลัง
นายกฯ กล่าวอีกว่า ในช่วงระยะเวลาที่เหลืออยู่ตนยังพร้อมที่จะให้การสนับสนุนภารกิจของทุกท่านอย่างเต็มที่ รัฐบาลของตนได้ทำการบริหารราชการแผ่นดิน โดยยึดหลักความสุจริต โปร่งใส มีความรับผิดชอบ สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน และมุ่งให้หน่วยงานของรัฐทุกระดับ ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นมาจนถึงระดับส่วนกลางได้มีความสามัคคีและปฏิบัติงานไปในทิศทางเดียวกัน การใช้จ่ายงบประมาณต่างๆจะต้องให้มีประสิทธิภาพ มีความรับผิดชอบและตรวจสอบได้ ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการในแนวทางนี้มาโดยตลอด สิ่งที่ตนอยากจะย้ำอีกเรื่องหนึ่งคือขอให้พวกเราทุกคนมีความพร้อมในการทำงานและไม่ต้องเกรงกลัวกับอำนาจ หรืออิทธิพลใดๆที่จะทำให้เรากระทำในสิ่งที่ขัดรัฐธรรมนูญและผิดกฎหมาย ขัดความยุติธรรม ขอให้ท่านได้มีความมั่นใจว่าท่านจะต้องเป็นหลักของหน่วยงานที่ท่านรับผิดชอบ และทำให้ความพยายามใดๆก็ตามที่จะเป็นการตอบสนองในทางการเมืองหรือการกระทำผิด เพื่อให้เกิดประโยชน์กับบุคคลใดบุคคลหนึ่งไม่ประสบผลสำเร็จ แต่ละท่านมาถึงจุดนี้กันแล้วก็คงต้องยึดถือความถูกต้องเป็นสำคัญ
“ผมได้เห็นการกระทำมากมายที่เกิดขึ้นในอดีต ที่ไม่ไกลจากนี้ คือการใช้กลไกอำนาจรัฐโดยมิชอบ ไปในทางที่เพื่อให้เกิดประโยชน์กับกลุ่มและคณะของตน ตลอดจนใช้อำนาจนั้นในการกลั่นแกล้ง หรือคนที่ขวางหรือเป็นอุปสรรคในการดำเนินการของเขา สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าพวกท่านทั้งหลายไม่ให้ความร่วมมือ ซึ่งพวกท่านก็ต้องเป็นทีมเวิร์คในการทำสิ่งที่ถูกต้องให้เกิดขึ้น ผมมี ครม.ก็พยายามทำให้ครม.ของผมเป็นทีมเวิร์ค สมัยก่อนผมไม่เคยคิดเรื่องพวกนี้ เพราะไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรเยอะแยะ แต่รับผิดชอบในหน้าที่การงานที่ถูกแต่งตั้งให้รับผิดชอบ แต่เมื่อมาอยู่ในสถานะนี้ก็ต้องรับผิดชอบในภาพรวม ผมมั่นใจว่าถ้าข้าราชการประจำยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลความซื่อสัตย์สุจริต ความถูกต้อง อำนาจใดๆ ก็ไม่สามารถที่จะทำให้ท่านทำความผิดได้“นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวด้วยว่า วันนี้พวกท่านซี 11 แล้วได้รับการเชิดชูต่างๆไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใด ขอให้ท่านมั่นใจและผนึกกำลังด้วยความสามัคคี เป็นรัฐ ราชการที่แข็งแกร่งสุดในการบริหารราชการแผ่นดิน ถ้าท่านแข็งแกร่งแล้ว ก็จะก่อให้เกิดสิ่งที่เป็นคุณประโยชน์กับประเทศกับประชาชน กับระบอบประชาธิปไตยของเรา ตนก็ต้องปล่อยให้แข็งแกร่ง ไปขวางไม่ได้ คนที่ทำงานร่วมกับตนมาโดยตลอดจะเห็นว่าตนใช้ความพยายามทุกวิถีทางในการรักษากติกา ระเบียบ และกฎหมาย ไม่เคยก้าวก่ายก้าวล่วงในสิ่งที่ชอบหรือสิ่งที่ควร แต่ตรงกันข้ามพร้อมให้การสนับสนุนสิ่งที่ก่อให้เกิดประโยชน์กับการบริหารของข้าราชการอย่างเต็มความสามารถ
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้เราสามารถทำงานด้วยกันทั้งฝ่ายการเมือง ฝ่ายข้าราชการประจำ สามารถผลักดันให้เกิดพลังอย่างมหาศาลในการพัฒนาประเทศได้อย่างแน่นอน ถ้าเรามั่นใจว่าทำในสิ่งที่ถูกต้องก็ไม่ต้องไปกลัวว่าจะใช้เวลานานในการที่จะตัดสินใจอะไรสักอย่าง สิ่งเหล่านี้ตนได้ประสบพบเห็นมา ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ตนเห็นว่าถ้าเรื่องไหนก็ตามที่เราเห็นพ้องร่วมกัน ทั้งในระดับนโยบาย ระดับปฏิบัติ ก็เห็นว่าถูกดำเนินการด้วยความมีประสิทธิภาพ ด้วยความรวดเร็วในทุกเรื่อง สนับสนุนซึ่งกันและกัน ไม่มีสิ่งใดที่ต้องวิตกกังวล ตนก็สบายใจ ในการเห็นชอบหรืออนุมัติ ตนก็ไม่มีปัญหาในการผลักดันเจตนารมณ์ของท่านให้บรรลุผลสำเร็จ
“ถึงแม้ว่าจะมีการยุบสภาเกิดขึ้นในอีกไม่นานนี้ แต่ภายใต้รัฐธรรมนูญ พวกเรายังคงต้องทำงานด้วยกันจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ และครม.ชุดใหม่ จนกว่าครม.ชุดใหม่จะเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งนับดูคร่าวๆ ก็ยังเจอกันอีกระยะเวลายาวนาน ได้ทำบุญ100 วันแน่นอน ขอให้มีความมั่นใจว่าผมก็ยังดำรงตนให้ภารกิจของพวกท่านสำเร็จในทุกกรณี แม้จะมีกฎระเบียบอะไรต่างๆมากมาย ผมถือว่าถ้าเจตนาดี และเจตนาที่จะทำอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ถ้ามีสิ่งจำเป็นที่จะต้องตัดสินใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงนี้ก็จะมีเหตุการณ์อะไรที่เราคาดไม่ถึง ก็ขอให้มั่นใจว่า ผมก็จะใช้ทุกหนทาง ทุกวิถีทาง ที่จะทำให้ทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยความราบรื่น” นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า หลายคนที่นี้ได้สัมผัสและทำงานร่วมกัน การตัดสินใจตนถือว่า ตนก็มีความรวดเร็ว ใช้เจตนารมณ์ความเชื่อถือพวกท่านเป็นหลัก พวกท่านกล้าที่จะลงนามมา ตนก็กล้าที่จะให้ความร่วมมือในการที่จะให้ความเห็นชอบ เราต้องเข้าใจซึ่งกันและกัน มันอาจมีสิ่งที่เราไม่คาดคิดเกิดขึ้นในขณะที่เป็นรัฐบาลรักษาการก็ต้องมีการเตรียมพร้อมตลอดเวลา เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ต้องหาช่องทางต่างๆหากมีความจำเป็นเร่งด่วนใดๆที่จะต้องดำเนินการในฐานะที่รัฐบาลจะต้องให้ความเห็นชอบต้องประกาศหรือดำเนินการใดๆก็ตาม เพื่อที่จะทำให้ประเทศของเราเดินหน้าต่อไปได้ ให้เกิดความปลอดภัยต่ออธิปไตย ต่อแผ่นดินของเรา สิ่งเหล่านี้ต้องคิดเผื่อๆเอาไว้ด้วย เราคงไม่ยอมที่จะใช้คำว่ารัฐบาลรักษาการแล้ว ถ้ามีเหตุการณ์คับขันเกิดขึ้น ก็ไม่เป็นอะไร อึดไปอีกนิดหนึ่ง เดี๋ยวรอรัฐบาลใหม่เข้ามา ถ้าเราตัดสินใจผิดหรือไปคิดว่าให้รอ อีกหน่อยได้ มันอาจจะเกิดความสูญเสียอย่างมากมายต่อประเทศของเรา ตนขอยืนยันว่าจะไม่ปล่อยให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน




