
เมื่อเวลา 10.10น. วันที่ 12 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีมีกระแสข่าวนัดหารือกับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า คืนนี้เวลา 21.20 น. ตนจะหารือกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ โดยจะเป็นการอัพเดตสถานการณ์หลังจากพูดคุยกันล่าสุดตอนที่ตนเดินทางตามเสด็จที่ประเทศจีนก็เป็นเวลาเกือบเดือนแล้ว แต่เรื่องการตัดสินใจดำเนินการอะไรต่างๆนั้นเป็นเรื่องของรัฐบาลไทยที่สนับสนุนและมอบอำนาจให้กองทัพดำเนินการ
เมื่อถามว่าจะให้ความมั่นใจประชาชนตามแนวชายแดนอย่างไรเพราะมีการยุบสภาฯแล้วมีความกังวลว่าสถานการณ์จะยืดเยื้อ นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลรักษาการก็มีอำนาจเต็มในการบริหารราชการแผ่นดิน มีข้อยกเว้นบางอย่าง แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องใช้ข้อยกเว้นนั้น ก็ไปอธิบายกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และถ้าเป็นความจำเป็นเร่งด่วนก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เมื่อดูตามวางไทม์ไลน์ที่เคยดำเนินการมา เลือกตั้งไม่เกิน 60 วัน การรับรองผลการเลือกตั้งภายใน 45 วัน การจัดตั้งคณะรัฐมนตรีใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ทุกรัฐบาลจะหมดวาระไปเมื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ เมื่อนับๆดูก็แค่ 5-6 เดือน เมื่อถามว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จะยุติก่อนเลือกตั้งใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องการปกป้องอธิปไตยปกป้องดินแดนทหารเขาก็ทำเต็มที่
เมื่อถามว่ากรณีมีกระแสข่าว สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาประกาศหยุดยิง ได้รับรายงานหรือไม่ นายอนุทิน ย้อนถามว่า หยุดยิงเมื่อไหร่ ตนยังไม่ได้รับทราบ และเสร็จจากนี้ตนจะเดินทางไปยังกองบัญชาการกองทัพไทย เนื่องจากเย็นวันเดียวกันนี้ตนต้องคุยกับ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกฯมาเลเซีย และนายโดนัลด์ ทรัมป์ ก็จะไปรับฟังผลการสรุปการดำเนินการของกองทัพ เมื่อถามอีกว่ามีข้อสังเกตการตัดสินใจยุบสภาฯสอดคล้องกับกระแสข่าวที่สมเด็จ ฮุนเซน สั่งหยุดยิง ทำให้ถูกมองว่ารัฐบาลไทยและกัมพูชาสมรู้ร่วมคิดกัน นายอนุทิน กล่าวว่า “ไม่มีหรอกครับ ตนยุบสภาฯเพราะหัวหน้าพรรคประชาชนบอกให้ยุบ ผมก็ยุบ” เมื่อถามว่าได้รับรายงานการกักตัวคนไทย ที่ด่านปอยเปตหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้รับรายงานแล้ว แนวทางการช่วยเหลือทางความมั่นคงจะเป็นผู้ดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่เคยให้ นายเบน สมิธ ยืมเครื่องบิน นายอนุทิน เพียงแค่หันหน้ามามองหน้าผู้สื่อข่าว แต่ไม่ตอบคำถามใดๆ




