Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the wordpress-seo domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. Please see Debugging in WordPress for more information. (This message was added in version 6.7.0.) in /home/ozapeumy/public_html/wp-includes/functions.php on line 6114
‘CV’ ตอกย้ำการเป็นผู้พัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนแบบครบวงจร - jaihindnews2

‘CV’ ตอกย้ำการเป็นผู้พัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนแบบครบวงจร

Date:

‘CV’ เข้าร่วมโครงการ T-VER ขึ้นทะเบียนในโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจ

นายเศรษฐศิริ ศักดิ์สิทธิเสรีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CV ผู้พัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนขนาดเล็ก เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก ที่สืบเนื่องจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ทุกองค์กรทั้งในไทยและต่างประเทศต้องร่วมมือกันเพื่อบรรลุเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกไปสู่ธุรกิจยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

โดยในส่วนของธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (Power Producer) โรงไฟฟ้าชีวมวล โคลเวอร์ พิษณุโลก ขนาดกำลังการผลิต 4.9 เมกะวัตต์ ได้รับการขึ้นทะเบียนภายใต้โครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย หรือ T-VER (Thailand Voluntary Emission Reduction Program) ณ ตั้งแต่ วันที่ 19 กันยายน 2562 (ระยะเวลาการประเมินเครดิต 7 ปี) จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมในการลดก๊าซเรือนกระจกในประเทศโดยความสมัครใจ และสามารถนำปริมาณการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้น ที่เรียกว่าคาร์บอนเครดิต ภายใต้โครงการ T-VER ไปขายในตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจในประเทศได้ ซึ่ง อบก. ได้กำหนดหลักเกณฑ์และขั้นตอนในการพัฒนาโครงการ ระเบียบวิธีการในการลดก๊าซเรือนกระจก (Methodology) การขึ้นทะเบียนและการรับรองปริมาณก๊าซเรือนกระจก โดยจะต้องเป็นโครงการที่ก่อให้เกิดการลด/ ดูดซับก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นภายในประเทศไทย

ทั้งนี้ในปี 2565 บริษัทฯ ได้ดำเนินการขอรับรองปริมาณก๊าซเรือนกระจก (คาร์บอนเครดิต) จากการดำเนินการผลิตของโรงไฟฟ้าโคลเวอร์ จังหวัดพิษณุโลก นับตั้งแต่ COD จนถึง ณ สิ้นปี 2561 (รวม 3 ปี 5 เดือน) จำนวน 68,114 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2eq) ซึ่งล่าสุดทางคณะกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ได้มีมติรับรองปริมาณก๊าซเรือนกระจกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย CV มีปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ได้รับการรับรอง จำนวน 68,114 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2eq) และมีระยะเวลาการคิดเครดิตของโครงการทั้งสิ้น 7 ปี นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย (Thailand Carbon Neutral Network) และมุ่งมั่นดำเนินการเรื่องการลดก๊าซเรือนกระจกในการดำเนินธุรกิจ เพื่อยกระดับองค์กรให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในทุกกระบวนการ ตามแนวทาง ESG และการพัฒนาที่ยั่งยืน ตอกย้ำการเป็นผู้พัฒนาพลังงานหมุนเวียนแบบครบวงจร ที่พร้อมส่งมอบคุณค่า สู่สังคมโลก เพื่อความยั่งยืน

“การที่เราได้รับการรับรองปริมาณคาร์บอนเครดิต จากอบก. ในครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำการเป็นผู้พัฒนาพลังงานหมุนเวียนแบบครบวงจร ที่ให้ความสำคัญในการดำเนินการเพื่อลดก๊าซเรือนกระจกโลก ซึ่งโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลโรงอื่นๆ ที่อยู่ภายใต้กลุ่มบริษัทฯ ก็เตรียมพร้อมที่จะนำขึ้นทะเบียนเพื่อรับรองคาร์บอนเครดิตตามมาตรฐานเกี่ยวข้องต่อไป โดยบริษัทฯ มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจทั้ง 3 ส่วน ได้แก่ ผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (Power Producer) ธุรกิจจัดหาและแปรรูปเชื้อเพลิง (Fuel Supply) และธุรกิจด้านวิศวกรรม สู่การเป็นองค์กรที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในอนาคต” นายเศรษฐศิริ กล่าว

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

ส่งหนังสือเตือน ครม.อุ๊งอิ๊งค์ ต้านตั้งประธานบอร์ด ธปท. เสี่ยงผิดกฎหมาย

กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม ส่งหนังสือเตือน ครม.อุ๊งอิ๊งค์ เห็นชอบประธานบอร์ด ธปท. เสี่ยงผิดกฎหมาย

ก.ล.ต. เตือนผู้ถือหุ้นกู้ บริษัท สบาย เทคโนโลยี 

ก.ล.ต. ขอให้ผู้ถือหุ้นกู้ บริษัท สบาย เทคโนโลยี จํากัด (มหาชน) จำนวน 3 รุ่น ใช้สิทธิในการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567

คาดอุตฯ รถยนต์ไทย ผ่านจุดต่ำสุดครึ่งหลังปี 2568

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC)​​​​​​​ ประเมิน คาดอุตฯ รถยนต์ไทย ผ่านจุดต่ำสุดครึ่งหลังปี 2568

บมจ.สุพรีม ดิสทิบิวชั่น โชว์กำไร Q3/67 โต 226%

บมจ.สุพรีม ดิสทิบิวชั่น เร่งเครื่องลุยงานภาครัฐตามแผน โชว์กำไร Q3/67 โต 226% ก้าวต่อปีงบประมาณ 2568 ดันผลประกอบการเติบโต 10%-15%