เวียตเจ็ทเผยผลประกอบการเป็นบวก ครึ่งแรกของปี 2565

Date:

บริษัท เวียตเจ็ท เอวิเอชั่น จอยท์สต็อค (VJC) ประเทศเวียดนาม รายงานผลประกอบการเป็นบวกในไตรมาส 2 และครึ่งแรกของปี 2565 ขณะที่ความต้องการการเดินทางทั้งภายในประเทศเวียดนามและการท่องเที่ยวระหว่างประเทศฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

ในไตรมาส 2 ของปีนี้ รายได้รวมของการขนส่งทางอากาศของเวียตเจ็ท (เวียดนาม) อยู่ที่ 11,355 พันล้านดองเวียดนาม (ประมาณ 488 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 17,607 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ในปี 2562 โดยมีกำไรหลังหักภาษีอยู่ที่ 36 พันล้านดองเวียดนาม (ประมาณ 1.54 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 55 ล้านบาท) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รายได้ภายในประเทศในไตรมาสที่ 2 เพิ่มขึ้นกว่า 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ด้วยบริการภายในประเทศ 53 รายการ

ทั้งนี้ รายรับรวมของเวียตเจ็ทอยู่ที่ 11,590 พันล้านดองเวียดนาม (ประมาณ 499 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 18,000 ล้านบาท) และกำไรหลังจากหักภาษีรวมในไตรมาส 2 อยู่ที่ 181 พันล้านดองเวียดนาม (ประมาณ 7.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 281 ล้านบาท)

สำหรับผลประกอบการในช่วง 6 เดือนแรก รายได้ค่าขนส่งทางอากาศของสายการบินและรายได้รวมของบริษัทอยู่ที่ 14,696 พันล้านดองเวียดนาม (ประมาณ 532 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1,886 ล้านบาท) และ 16,112 พันล้านดองเวียดนาม (ประมาณ 693 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2,500 ล้านบาท) ตามลำดับ ซึ่งสูงกว่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ในปี 2562

กำไรโดยรวมหลังหักภาษีของเวียตเจ็ทในช่วงครึ่งปีแรกมูลค่าสูงถึง 76 พันล้านดองเวียดนาม (ประมาณ 3.26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 117 ล้านบาท) ในขณะที่กำไรรวมของบริษัทอยู่ที่ 426 พันล้านดอง (18.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 660 ล้านบาท)

ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เวียตเจ็ทได้เพิ่มความถี่ในการให้บริการบนเส้นทางบินต่าง ๆ มากมาย เพื่อตอบสนองความต้องการการเดินทางที่เพิ่มสูงขึ้นภายหลังการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 เพื่อรองรับการฟื้นตัวของตลาดการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยให้บริการเที่ยวบินทั้งหมด 52,500 เที่ยว มีผู้โดยสารเดินทางด้วยอากาศยานกว่า 9 ล้านคน ตามลำดับ ซึ่งเพิ่มขึ้น 54% และ 92% ต่อปี และมีจำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ในปี 2562

ในช่วงไตรมาสที่ 2 เวียตเจ็ทให้บริการ 33,000 เที่ยวบิน โดยมีผู้โดยสารร่วมเดินทางกว่า 6 ล้านคน ทั้งจำนวนเที่ยวบินและจำนวนผู้โดยสารนั้นสูงกว่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 รวมถึงปริมาณการขนส่งสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นกว่า 11,000 ตัน

เวียตเจ็ทเดินหน้าขยายเส้นทางบินระหว่างประเทศเส้นทางใหม่ ๆ อย่างรวดเร็ว เพื่อส่งเสริมการก้าวเป็นผู้นำในตลาดทันทีที่น่านฟ้าของประเทศเวียดนามและต่างประเทศเปิดอีกครั้งภายหลังการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ถือเป็นสายการบินบุกเบิกในการขยายเครือข่ายเส้นทางบินตรง 17 เส้นทาง เชื่อมต่อระหว่างเวียดนามและอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดที่มีประชากรกว่า 1.4 พันล้านคน โดยเฉพาะในเดลี มุมไบ อาเมดาบัด ไฮเดอราบัด และบังกาลอร์ พร้อมกันนี้ เวียตเจ็ทยังเปิดให้บริการเส้นทางบินใหม่จากโฮจิมินห์และดานัง สู่ ปูซาน (ประเทศเกาหลีใต้) จากฮานอย สู่ นาโกย่าและฟุกุโอกะ (ประเทศญี่ปุ่น) เป็นต้น

นอกจากนี้ เพื่อเสริมทัพฝูงบินของเวียตเจ็ทซึ่งประกอบด้วยเครื่องบินแอร์บัส A320 และ A321 เวียตเจ็ทได้รับมอบเครื่องบินแอร์บัส A330 รุ่นใหม่ ซึ่งมีความทันสมัยและมีลำตัวกว้างมาใช้งานเป็นครั้งแรก พร้อมด้วยเทคโนโลยีควบคุมเสียงรบกวน เพื่อประสบการณ์การบินที่ปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้นแก่ผู้โดยสาร

พร้อมกันนี้ เวียตเจ็ทเปิดตัวเว็บไซต์และแอปพลิเคชันบนมือถือใหม่ล่าสุด พร้อมบริการแพ็คเกจ “บินก่อน จ่ายทีหลัง” เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนลูกค้าผู้ประสบปัญหาทางการเงิน และบริการสกายฮอลลิเดย์ ให้บริการแพ็คเกจตั๋วเครื่องบินและที่พักในโรงแรมและรีสอร์ททั่วประเทศเวียดนาม

เวียตเจ็ทได้รับการยกย่องให้เป็น ‘สายการบินทรงคุณค่าแห่งปี’ และ ‘สายการบินราคาประหยัดที่ดีที่สุด 10 อันดับแรก’ ประจำปี 2565 โดย AirlineRatings เว็บไซต์จัดอันดับที่มีชื่อเสียง

เวียตเจ็ทได้ผ่านการประเมินการรับรองความปลอดภัยจาก ISO27001 อีกครั้งโดย TUV NOR ของเยอรมัน ซึ่งตรงตามเกณฑ์ทั้งหมดของการจัดการความปลอดภัยของ ISO27001:2013

Share post:

spot_img

Related articles

แฉขบวนการค้าบุหรี่เถื่อน ตบตาเจ้าหน้าที่

สมาคมการค้ายาสูบไทย แฉขบวนการค้าบุหรี่เถื่อนเปิดร้านส่งพัสดุเอกชนบังหน้า รับออเดอร์ผ่านช่องทางออนไลน์กระจายทั่วประเทศตบตาเจ้าหน้าที่

EXIM BANK เสนอขาย Blue Bond สกุลบาท 

EXIM BANK เสนอขาย Blue Bond สกุลบาทครั้งแรก ระดมทุนสนับสนุนธุรกิจอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและ Blue Economy พัฒนาระบบนิเวศที่ยั่งยืนและสังคมคาร์บอนต่ำ

ยอดผลิต รถยนต์ เดือนมิถุนายน 2567 วูบ 20%

ปรับเป้าผลิตรถยนต์ลง 2 แสนคัน หลังยอด ยอดผลิตรถยนต์เดือนมิถุนายน 2567 วูบ 20%

ได้เวลาปลุกปั้น อาหารไทย ให้อิ่มนี้ มีอิทธิพล

แนะไทยควรให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนา Soft power ด้านอาหาร ที่สามารถเชื่อมโยงให้เติบโตไปกับเทรนด์อาหารแห่งโลกอนาคต

Notice: ob_end_flush(): Failed to send buffer of zlib output compression (0) in /home/ozapeumy/public_html/wp-includes/functions.php on line 5427