นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม กำกับดูแลสถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) เล็งเห็นความสำคัญของสถาบันการบินพลเรือน ซึ่งเป็นสถาบันฝึกอบรมเฉพาะทางด้านการบินของประเทศไทยมายาวนานกว่า 62 ปี และยังคงรักษามาตรฐานและคุณภาพในการผลิตบุคลากรการบิน ล่าสุดยกระดับเข้าสู่เวทีโลกได้รับการรับรองจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization: ICAO) ในฐานะสมาชิกระดับ Platinum เป็น 1 ใน 9 แห่งจากจำนวน 128 สถาบันใน 77 ประเทศทั่วโลก และเป็น 1 ใน 4 แห่ง ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกตามโครงการ ICAO TRAINAIR PLUS ถือเป็นสถาบันที่มีบทบาทสำคัญในการผลิตและพัฒนาบุคลากรการบินแบบครบวงจรทั้งหลักสูตรภาคพื้นและภาคอากาศ
นางมนพร ฯกล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศนโยบาย Aviation Hub เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค การจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้นั้น สิ่งที่ต้องเตรียมการเป็นลำดับแรกคือ บุคลากรการบินต้องมีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานสากล นอกจากสำนักงานใหญ่ของ สบพ.ที่กรุงเทพ ซึ่งมีอาคารสถานที่ที่มีความพร้อมในการผลิตและพัฒนาบุคลากรการบินในหลักสูตรภาคพื้นให้พร้อมรับการกลับมาของอุตสาหกรรมการบินแล้ว
สบพ.ยังมีศูนย์ฝึกการบิน ตั้งอยู่ที่ท่าอากาศยานหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นแหล่งผลิตนักบินพาณิชย์ รวมถึงบุคลากรด้านการบินหลักของประเทศและภูมิภาคมายาวนาน เมื่อมีโอกาสไปตรวจเยี่ยมอย่างไม่เป็นทางการได้รับรายงานว่าศูนย์ฝึกการบินได้ผลิตและพัฒนานักบินที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากลได้อย่างพอเพียงต่อความต้องการภายในประเทศและสอดคล้องกับความต้องการของภูมิภาค มีขีดความสามารถในการผลิตและพัฒนานักบินตามมาตรฐานสากลกำหนดได้มากกว่าปีละ 100 คน
โดยให้บริการในหลักสูตรภาคอากาศครอบคลุมทั้งเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์และได้รับการรับรองเป็นสถานฝึกอบรมด้านการบิน (Approved Training Organization: ATO) จากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) อาทิเช่น หลักสูตรนักบินพาณิชย์ตรีเครื่องบิน (Commercial pilot – Airplane Course: CPL) หลักสูตรนักบินพาณิชย์ตรีเฮลิคอปเตอร์ (Commercial pilot – Helicopter Course: CPH) รวมถึงหลักสูตรนักบินส่วนบุคคล หลักสูตรครูการบิน ทั้งเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ เป็นต้น และถือเป็นแหล่งรายได้หลักของ สบพ.
แต่เมื่อเกิดสถานการณ์โควิด – 19 ส่งผลให้เกิดสถานการณ์นักบินตกงาน สบพ.ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ไม่มีศิษย์การบินทั้งทุนจากสายการบินและทุนส่วนตัว ด้วยขาดความเชื่อมั่นถึงโอกาสในการมีงานทำ และพบว่าอาคารสถานที่มีสภาพเก่าและทรุดโทรม ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของสถาบันฝึกอบรมที่ได้มาตรฐานสากล วันนี้สถานการณ์ด้านการบินได้คลี่คลายลงแล้ว สายการบินมีแผนการสั่งซื้อเครื่องบินเพิ่มขึ้นในทุก ๆปี จึงมีความต้องการนักบินเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
ล่าสุดบริษัทการบินไทยจำกัด (มหาชน) ได้ประการรับสมัคร Student Pilot โดยบริษัทเป็นผู้ออกทุนในการฝึกอบรมทั้งหมด และเปิดรับนักบินหญิงเป็นปีแรกถือเป็นโอกาสที่ดีของ สบพ. และเป็นโอกาสดีของน้องๆที่สนใจอาชีพนักบิน จึงถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ สบพ.ต้องปรับปรุงอาคารศูนย์ฝึกการบินให้มีความพร้อมรองรับการผลิตและพัฒนานักบินที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล และผลิตได้เพียงพอต่อความต้องการของสายการบิน
นางมนพร ฯจึงได้ผลักดันโครงการก่อสร้างอาคารศูนย์ฝึกการบินหัวหินและสิ่งก่อสร้างประกอบพร้อมครุภัณฑ์ ของ สบพ. โดยจัดสรรงบประมาณในเฟสแรกที่จะเริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ 2568 ในวงเงินประมาณ 398.5 ล้านบาท เป็นอาคารเรียนและฝึกอบรมที่มีความทันสมัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ซึ่งจะสอดคล้องกับผลการตรวจประเมินของ ICAO ในครั้งที่ผ่านมา ได้ตั้งข้อสังเกตให้ สบพ.พิจารณาปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ในฐานะที่เป็นสถาบันที่ต้องได้รับการตรวจสอบและผ่านการประเมินตามเกณฑ์มาตรฐานที่ ICAO การก่อสร้างในเฟสแรกจึงเป็นงานก่อสร้างอาคารศูนย์ฝึกการบิน และอาคารอำนวยการ ๒ หลังและสิ่งก่อสร้างประกอบพร้อมครุภัณฑ์ รวมทั้งงานถนนและระบายน้ำ งานสาธารณูปโภค งานภูมิทัศน์ให้มีความสวยงามสมเป็นศูนย์ฝึกการบินของประเทศไทยให้พร้อมรับศิษย์การบินทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่อไป
นอกจากนี้ ศูนย์ฝึกการบิน สบพ. เป็นสถาบันที่มีหลักสูตรนักบินพาณิชย์ตรีเฮลิคอปเตอร์ (Commercial pilot – Helicopter Course: CPH) ที่ได้มาตรฐานเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย และเป็นสถาบันหลักในการสร้างนักบินเฮลิคอปเตอร์ให้หน่วยงานของภาครัฐ อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพเรือ กรมแผนที่ทหาร กองทัพบก และหน่วยงานภาคเอกชนต่างๆ รวมถึงทุนส่วนตัวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในปีนี้จึงได้จัดสรรงบประมาณประจำปี 2567 เพื่อจัดหาเฮลิคอปเตอร์ในแบบ Robinson R44 จำนวน 2 ลำ ในวงเงิน 78 ล้านบาทเศษตามที่ สบพ.ร้องขอ เพื่อสนับสนุนภารกิจของชาติด้านความมั่นคง รวมถึงสนับสนุนภารกิจของภาคเอกชน ตอบสนองการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมการบิน สนับสนุนนโยบาย Aviation Hub ของรัฐบาล และทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทั้งด้านการบินและด้านเศรษฐกิจตามเป้าหมายของรัฐบาลต่อไป
นางมนพรฯ ยังมอบนโยบายให้ สบพ. เตรียมความพร้อมในการพัฒนาอาคารสถานที่ในเฟสที่สองและเฟสที่สามตามแผนการพัฒนาศูนย์ฝึกการบิน สบพ. แผนจัดหาเครื่องบิน เครื่องฝึกบินจำลอง (Flight Simulator) ให้เพียงพอ และการเตรียมครูการบิน เพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมการบินในประเทศไทย และรองรับเป็นศูนย์กลางการบิน (Aviation Hub) ของภูมิภาคต่อไป