นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า นโยบายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของรัฐบาล โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันมีหลายประเทศที่สามารถทำเงินจากธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ได้กว่าปีละ 1 ล้านล้านบาท รวมทั้งในอาเซียน อาทิ สิงคโปร์ เวียดนาม สปป.ลาว และเมียนมา ก็มีรายได้จากธุรกิจนี้ตั้งแต่ 5,000 ล้านบาทถึงหลายแสนล้านบาทในแต่ละปี
เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นกลุ่มไฮสเปนเดอร์ หรือกลุ่มมีศักยภาพใช้จ่ายสูง ที่ต้องการไปช้อปปิ้ง ดูโชว์ พักผ่อน โดยมีธุรกิจการพนันเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ทำให้หากรัฐบาลส่งเสริมการประชาสัมพันธ์ซอฟต์พาวเวอร์ที่เป็นจุดแข็งของประเทศไทย ทั้งด้านอาหาร การจัดบิ๊กอีเวนต์และเฟสติวัล เทศกาลสำคัญๆ ของเราก็ยิ่งเป็นช่วยสนับสนุนให้เกิดการท่องเที่ยวและกระจายรายได้ นอกเหนือจากการเข้ามาใช้บริการเฉพาะในส่วนของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
นายสนั่น กล่าวว่า ผลกระทบในแง่เศรษฐกิจ จากกรณีศึกษาประเทศสิงคโปร์ พบว่า ในปี 2565 สถานบันเทิงครบวงจร มีสัดส่วน 4% ของจีดีพี สร้างงานให้คนในพื้นที่ 2 หมื่นตำแหน่ง โดยจากกรณีศึกษาเหล่านี้ ประเมินว่าหากรัฐบาลสามารถบริหารจัดการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์อย่างเป็นระบบและรอบคอบ ก็จะเป็นโอกาสให้เศรษฐกิจไทย ส่วนพื้นที่ที่มีการเสนอเบื้องต้นในจังหวัดภูเก็ต เชียงใหม่ กรุงเทพฯ และพัทยา ส่วนนี้หอการค้าฯ เห็นว่าเหมาะสมดี แต่อยากให้เกิดการกระจายรายได้ และมีโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อม เพื่อช่วยให้เกิดการพัฒนาเมือง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และเกิดการกระจายรายได้
รวมถึงเศรษฐกิจในต่างจังหวัด เช่นเดียวกับตัวอย่างเมืองลาสเวกัส (Las Vegas) ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองแห่งกาสิโนและความบันเทิงระดับโลก เดิมเคยเป็นเพียงพื้นที่ทะเลทรายที่ไม่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจมากนักในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 แต่ได้พัฒนาและเติบโตอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองสูง ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในโมเดลของไทยเพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดกับประเทศ
นายสนั่น กล่าวว่า หากรัฐบาลผลักดันเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในประเทศไทยได้สำเร็จ คาดการณ์ว่า รายได้ของผู้ประกอบการกาสิโนจะอยู่ที่ 69,583 ล้านบาท หรือ 0.7% ของจีดีพี ขณะที่รัฐบาลจะมีรายได้ 36,048 หมื่นล้านบาท ทำให้รายได้รวมอยู่ที่ 105,631 ล้านบาท และก่อให้เกิดการจ้างงานกว่า 70,000 ตำแหน่ง ซึ่งส่วนนี้ต้องมาพิจารณาหลักเกณฑ์การลงทุนและรายละเอียดอื่นๆ ของรัฐบาลอีกครั้ง เนื่องจากขั้นตอนการนำเสนอกฎหมายเพิ่งผ่านหลักการของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ออกมาเป็นร่างเบื้องต้นเท่านั้น
“การทำเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ต้องยอมรับว่าผลกระทบที่ตามมามีทั้งบวกและลบ รัฐบาลจะต้องเร่งทำความเข้าใจผ่านการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ความรู้ และเปิดฟังความเห็นจากทุกภาคส่วนอย่างจริงจัง รวมถึงมีมาตรการดูแลและลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะมาตรการป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงการพนัน เพื่อดำเนินนโยบายอย่างรอบคอบและชัดเจนที่สุด” นายสนั่น กล่าว