สินค้าต่างชาติ หั่นส่วนแบ่งตลาด ฉุดดัชนีเชื่อมั่นอุตฯ

Date:

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายอภิชิต ประสพรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และนายพิภพ โชควัฒนา กรรมการบริหารสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และรองประธานสายงานเศรษฐกิจและวิชาการ ร่วมเปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนธันวาคม 2567 อยู่ที่ระดับ 90.1 ปรับตัวลดลง จาก 91.4 ในเดือนพฤศจิกายน 2567 ซึ่งเป็นผลจากการผลิตภาคอุตสาหกรรมชะลอลง จากการเร่งผลิตในเดือนก่อนหน้า ประกอบกับในเดือนธันวาคมมีวันทำงานน้อย และมีวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเทศกาลปีใหม่ รวมทั้งสถานการณ์น้ำท่วมและสภาพอากาศแปรปรวนในพื้นที่ภาคใต้ ยังไม่คลี่คลาย ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอลง ต้นทุนราคาวัตถุดิบทางการเกษตรเพิ่มขึ้น จากสถานการณ์น้ำท่วม ภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงเดือนก่อนหน้าส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตร อีกทั้ง อุปสงค์ในประเทศชะลอลง สะท้อนจากยอดขายสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ในเดือนพฤศจิกายน 2567 หดตัว 31.34% นอกจากนี้ สถาบันการเงินยังระมัดระวังการอนุมัติสินเชื่อ สินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้าง หดตัวลงจากการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะที่อยู่อาศัย ขณะที่กลุ่มพลังงาน ชะลอลงตามคำสั่งซื้อที่ลดลง รวมไปถึง กำลังซื้อในประเทศโดยเฉพาะในส่วนภูมิภาคยังเปราะบาง จากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังบั่นทอนความสามารถในการใช้จ่ายของประชาชน และผู้ผลิตเผชิญการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากสินค้าจีน เข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดในประเทศและในภูมิภาคอาเซียน ทำให้ความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยลดลง

อย่างไรก็ตาม ในเดือนธันวาคม ยังมีปัจจัยบวกจากผู้ประกอบการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในกลุ่มสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าแฟชั่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน เป็นต้น รวมถึงผลจากการจัดทำ FTA ไทย – EFTA (สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป ) ได้สำเร็จ ขณะที่ผู้ประกอบการมีการใช้สิทธิ์ FTA ในช่วง (มกราคม – กันยายน 2567) คิดเป็น 85.58% เพิ่มขึ้น 2.11%YoY ส่งผลดีต่อภาคการส่งออก ประกอบกับ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ขยายตัวต่อเนื่องตามอุปสงค์ในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น และอยู่ในช่วงขาขึ้นของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ อีกทั้ง การท่องเที่ยวก็มีการขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งนักท่องเที่ยวในประเทศและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาครัฐ อาทิ การยกเว้นบัตร ตม.6 ในด่านทางบก การพัฒนาระบบการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว (Ease of Traveling) บน Web Portal : Entry Thailand รวมถึงการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินมากยิ่งขึ้น

จากการสำรวจผู้ประกอบการ 1,372 ราย ครอบคลุม 46 กลุ่มอุตสาหกรรมของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในเดือนธันวาคม 2567 พบว่าปัจจัยที่ผู้ประกอบการมีความกังวลเพิ่มขึ้น ได้แก่ เศรษฐกิจในประเทศ 56.3% เศรษฐกิจโลก 52.4% สถานการณ์การเมืองในประเทศ 40.1% ส่วนปัจจัยที่กังวลลดลง ได้แก่ ราคาน้ำมัน 37.2% อัตราแลกเปลี่ยน (มุมมองผู้ส่งออก) โดยอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ 36.5% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 29.4% 

ขณะที่ดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 95.5 ปรับตัวลดลงจาก 96.7 ในเดือนพฤศจิกายน 2567 โดยปัจจัยที่ผู้ประกอบยังคงห่วงกังวล คือ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เพิ่มขึ้นในอัตราวันละ 7 – 55 บาท (เฉลี่ยร้อยละ 2.9) ส่งกระทบต่อต้นทุนแรงงานของผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SMEs ความเสี่ยงจากมาตรการกีดกันทางการค้าและการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ตามนโยบาย Trump 2.0 อาจส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกและการขยายตัวของเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยสนับสนุนที่คาดว่าจะมาจากมาตรการลดหย่อนภาษี Easy E-Receipt 2.0 และโครงการแจกเงิน 10,000 บาทเฟส 2 ให้กับกลุ่มผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป คาดว่าจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงไตรมาส 1/2568 และแนวโน้มการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีแนวโน้มลดลง

ข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ 

1.  เสนอให้ภาครัฐจัดตั้ง War Room เพื่อเตรียมแนวทางรับมือกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ เพื่อลดผลกระทบกับภาคการส่งออกของไทยและรับมือกับผลกระทบทางอ้อม รวมทั้งสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการขยายตลาดกับสหรัฐฯ 

2.  ให้ภาครัฐออกมาตรการเยียวยาสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา 

3.  เสนอให้ภาครัฐออกมาตรการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องจักรและอุปกรณ์ในโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อลดต้นทุนการผลิต รวมถึงการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนในภาคอุตสาหกรรม

4.  เร่งขยายผลความสำเร็จจากการเจรจาความตกลงการค้าเสรี FTA ไทย – EFTA ไปสู่การเจรจาความตกลงการค้าเสรี FTA ไทย-สหภาพยุโรป เพื่อขยายโอกาสทางการค้า

ทั้งนี้ ส.อ.ท. ได้ทำการรวบรวมข้อมูลผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมและข้อมูลตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมจากหน่วยงานต่างๆ ย้อนหลัง 3 ปี จัดทำเป็น Dashboard เผยแพร่ในเว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลภาคเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม Industry Data Space (iDS) ของ ส.อ.ท. เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการและบุคคลทั่วไปให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจ โดยสามารถเข้าไปใช้บริการข้อมูลดังกล่าวได้ที่ https://fti.or.th/ids 

ส.อ.ท. มุ่ง “เสริมสร้างความเข้มแข็งให้อุตสาหกรรมไทย เพื่อประเทศไทยที่เข้มแข็งกว่าเดิม (Strengthen Thai Industries for Stronger Thailand)”

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

ไทยติดที่ 2 อาเซียน ที่สหรัฐฯ เล็งขึ้นภาษีนำเข้า

ttb analytics ชี้ ไทยติดที่ 2 อาเซียน ที่สหรัฐฯ เล็งขึ้นภาษีนำเข้า ภายใต้นโยบาย Trump 2.0

บมจ.โปร อินไซด์ คว้างานใหม่ของ กฟภ. มูลค่า 1.5 พันล้านบาท

บมจ.โปร อินไซด์ คว้างานใหม่ของ กฟภ. มูลค่า 1.5 พันล้านบาท ดัน Backlog พุ่งแตะ 2.7 พันลบ. หนุนรายได้ปี 68 เติบโต 15% ตามนัด

ศรีสวัสดิ์ แนะนำเช็กให้ชัวร์ ก่อนกู้เงินด่วนออนไลน์

ศรีสวัสดิ์ แนะนำเช็กให้ชัวร์ ก่อนกู้เงินด่วนออนไลน์ เพื่อป้องกันไม่ให้เราตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพในทุกรูปแบบ

บมจ.มาเธอร์ มาร์เก็ตติ้ง ปลื้ม โรดโชว์ออนไลน์กระแสตอบรับดี

บมจ.มาเธอร์ มาร์เก็ตติ้ง ปลื้ม โรดโชว์ออนไลน์กระแสตอบรับดี คาดเข้าระดมทุน เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2568