
Krungthai COMPASS เปิดเผยว่า มูลค่าส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรในไตรมาส 4 อยู่ที่ 12,148 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 4.1 แสนล้านบาท) ขยายตัวต่อเนื่องที่ 7.2%YoY หลังจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัว 9.8%YoY โดยสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ไก่ ยางพารา ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งและแห้ง อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป อาหารสัตว์เลี้ยง และสิ่งปรุงรสอาหาร ส่วนสินค้าที่หดตัว ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง และน้ำตาลทราย
สำหรับสินค้าที่ขยายตัวดี ได้แก่ ยางพารา (30.8%YoY) ขยายตัวจากราคาส่งออกที่เพิ่มขึ้น ส่วนผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งและแห้ง (12.9%YoY) จากคำสั่งซื้อผลไม้ในตลาดจีนที่เร่งตัวขึ้น ภายหลังสถานการณ์น้ำท่วมในไทยคลี่คลาย ขณะที่อาหารสัตว์เลี้ยง (15.3%YoY)ได้รับผลบวกจากความต้องการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในตลาดสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป
Krungthai COMPASS มองว่า ในปี 2568 การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรไทยจะยังขยายตัวได้ แต่มีปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ได้แก่ นโยบายการค้าของสหรัฐฯ รอบใหม่อาจกดดันการส่งออก รวมถึงความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจกระทบต่อต้นทุนการส่งออก อีกทั้งต้นทุนค่าจ้างแรงงานที่ปรับเพิ่มขึ้นและกฎระเบียบทางการค้าด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศคู่ค้าที่เข้มงวด อาจกดดันอัตรากำไรของผู้ประกอบการ นอกจากนี้ การแข่งขันในตลาดส่งออกอาจทวีความรุนแรง เนื่องจากอุปทานสินค้าพืชเกษตรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามสภาพอากาศที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ