แนะกลยุทธ์ขายสินค้า อาหารไทย เจาะตลาดรัสเซีย

Date:

นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทำการสำรวจลู่ทางการค้า และโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ตามนโยบายนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดได้รับรายงานจากนายสุดเขต บริบูรณ์ศรี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมอสโก ถึงผลการสำรวจการใช้จ่ายด้านอาหารของผู้บริโภคชาวรัสเซีย และโอกาสในการขยายตลาดสินค้าอาหารไทยเข้าสู่ตลาดรัสเซีย

โดยทูตพาณิชย์ได้รายงานข้อมูลประกอบว่า ผลการศึกษาและสำรวจของ X5 Package Service พบว่า ชาวรัสเซียที่ตอบแบบสำรวจเกือบ 15% ใช้จ่ายเงินสำหรับค่าอาหารน้อยกว่า 10,000 รูเบิลต่อเดือน และประมาณ 34% ใช้จ่ายเงินสำหรับค่าอาหาร 10,000-20,000 รูเบิลต่อเดือน และ 28% ใช้จ่ายเงินสำหรับค่าอาหาร 20,000-30,000 รูเบิลต่อเดือน และมีชาวรัสเซียผู้ตอบแบบสำรวจเพียง 1% เท่านั้น ที่ระบุว่า การใช้จ่ายสำหรับค่าอาหาร ที่สูงกว่า 50,000 รูเบิลต่อเดือนขึ้นไปถือเป็นเรื่องปกติ

ทั้งนี้ มีข้อสังเกตว่า 61% ของผู้ตอบแบบสำรวจ ชอบการใช้ส่วนลดและโปรโมชัน 12% ใช้บริการการได้รับเงินคืน และโปรแกรมความภักดี 5% มีการวางแผนเมนูสำหรับสัปดาห์ 9% ซื้อสินค้าทีละจำนวนมาก และมีเพียง 13% เท่านั้นที่ไม่ได้เน้นการประหยัด และยังพบว่า ผู้ตอบแบบสำรวจประมาณครึ่งหนึ่ง 51% มีการแวะไปร้านค้าสองถึงสามครั้งต่อสัปดาห์ และ 40% ไปทุกวัน 7% ซื้อของชำสัปดาห์ละครั้ง และมีเพียง 2% เท่านั้นที่ไปร้านค้าเมื่อจำเป็นหรือทุกสองสัปดาห์ โดยผลการศึกษาและสำรวจยังปรากฏด้วยว่า ชาวรัสเซียเกือบครึ่งหนึ่ง 49% ทำอาหารทุกวัน และ 24% ทำอาหารสี่ถึงห้าครั้งต่อสัปดาห์ โดยมีผู้ตอบแบบสอบสำรวจเพียง 1% เท่านั้นที่ชอบสั่งอาหาร และ 3% ทำอาหารเฉพาะในวันหยุดสุดสัปดาห์

นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสำรวจ 41% ระบุว่า ส่วนใหญ่ซื้อของจากร้านค้าออฟไลน์และมีการสั่งซื้อทางออนไลน์ในบางครั้ง 18% ผสมผสานทั้งสองวิธี (ออฟไลน์และออนไลน์) ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และมีเพียง 4% เท่านั้นที่เปลี่ยนมาชอปปิ้งออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ โดยในตะกร้าซื้อสินค้าอาหาร ชาวรัสเซียส่วนใหญ่ 51% จะซื้อสินค้าที่ประกอบไปด้วยผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์จากนม และธัญพืช 39% พยายามรวมกลุ่มอาหารให้หลากหลาย 7% เลือกผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปและอาหารแช่แข็ง และมีเพียง 1% ที่เลือกอาหารเพื่อสุขภาพ เช่น ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกและซุปเปอร์ฟู้ด

ส่วนการเลือกผลิตภัณฑ์ ชาวรัสเซียส่วนใหญ่ 53% ให้ความสำคัญกับคุณภาพและส่วนประกอบ และ 39% ให้ความสำคัญกับราคา ทั้งนี้ คำแนะนำจากเพื่อนและครอบครัว แบรนด์ผลิตภัณฑ์ และรูปลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ มีผลต่อการเลือกน้อยกว่า โดยมีชาวรัสเซียเพียง 2% เท่านั้นที่ให้ความสนใจกับแบรนด์ผลิตภัณฑ์

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2567 ได้มีรายงานข่าวเกี่ยวกับผลการศึกษาร่วมกันระหว่าง The X5 Club Loyalty Programs และ The Spirit (เครือข่ายฟิตเนสของคลับฟิตเนสเชิงเทคโนโลยี) ระบุผลการสำรวจว่า ชาวรัสเซียส่วนใหญ่ 62.2% เชื่อว่าได้ปฏิบัติตามหลักการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ และ 91% ปรุงอาหารเพื่อสุขภาพที่บ้าน ในขณะเดียวกัน ผู้ตอบแบบสำรวจ 35% ระบุว่า เป็นเรื่องยากที่จะยึดมั่นกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ โดยสาเหตุหลัก ได้แก่ การไม่มีเวลาทำอาหาร 56% ขาดกำลังใจ 40% และขาดความรู้เกี่ยวกับวิธีการทางโภชนาการ 23%

“จากผลการศึกษาและสำรวจข้างต้นที่ระบุว่า ชาวรัสเซียส่วนใหญ่ 53% ให้ความสำคัญกับคุณภาพและส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ และ 39% ให้ความสำคัญกับราคาของผลิตภัณฑ์ แต่จะให้ความสำคัญน้อยลงกับตัวแบรนด์ และรูปลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยที่สนใจส่งออกผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอาหาร มายังตลาดรัสเซียอาจพิจารณาวางแผนการตลาดในส่วนตลาดรัสเซีย โดยคำนึงถึงคุณภาพ ส่วนประกอบ และราคาของผลิตภัณฑ์เป็นสำคัญ โดยอาจพิจารณาปัจจัยด้านความสวยงามของรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์เป็นปัจจัยรอง ๆ ลงมา และที่ผ่านมา ผู้บริโภคชาวรัสเซียส่วนมากมีมุมมองเชิงบวกต่อผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอาหารของไทย หากมีสิ่งใดที่สื่อถึงความเป็นไทยในการโฆษณาผลิตภัณฑ์ ก็น่าจะสามารถช่วยสร้างความมั่นใจต่อผู้บริโภคมากยิ่งขึ้นได้” นางสาวสุนันทา กล่าว

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน เปิดภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่

บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน เปิดภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ โดดเด่นด้วยฟีเจอร์ “พอยท์แบบใหม่ ให้ได้มากกว่า” ตั้งเป้าสมัครบัตรใหม่กว่า 100,000 บัญชี

GCAP GOLD ชี้ทองลุ้นพุ่งแตะ $3,400 

GCAP GOLD ชี้ทองลุ้นพุ่งแตะ $3,400 หลังทรัมป์ประกาศรีดภาษี 14 ประเทศ

BJC ประสบความสำเร็จในออกหุ้นกู้ 16,000 ล้าน

BJC ประสบความสำเร็จในออกหุ้นกู้ 16,000 ล้าน ยอดจองเกินเป้ากว่า 5.5 เท่า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน

 คปภ. สั่ง “เคดับบลิวไอ ประกันภัย” เร่งเพิ่มทุน 30 ล้านบาท 

คปภ. สั่ง “เคดับบลิวไอ ประกันภัย” เร่งเพิ่มทุน 30 ล้านบาท ภายใน ก.ค.นี้ ย้ำคำสั่ง “หยุดรับประกันภัยใหม่เป็นการชั่วคราว”