
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการดำเนินการของไทยต่อกรณีนโยบายการค้าของสหรัฐอเมริกา โดยมีผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมการประชุม ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 20 อาคาร 150 ปี กระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2568
นายพิชัย เปิดเผยการประชุมทีมเจาจาการค้ากับสหรัฐ กล่าวว่า ที่ประชุมมีการคุยเพื่อให้ทั้งไทยและสหรัฐฯ ได้รับประโยชน์ สามารถแก้ปัญหาให้ลุล่วงไปได้ โดยไทยมีจุดแข็งภาคเกษตรกรรรม โดยเฉพาะการส่งออกแปรรูป เช่น การแปรรูปอาหารสัตว์เลี้ยง ส่งออกเป็นปีละ 1 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 3% ของมูลค่าการตลาดโลกเท่านั้น
ซึ่งการผลิต ยังต้องนำเข้าวัตถุดิบข้าวโพดจากประเทศ ต่างๆ ประมาณ 4 ล้านตัน ไทยก็เสนอสหรัฐฯ าซื้อข้าวโพดจากสหรัฐที่ราคาถูก โดยการแบ่งโควต้าจะประเทศเดิมที่ไทยนำเข้ามาซื้อจากสหรัฐ ซึ่งจะไม่กระทบกับการซื้อข้าวโพดในประเทศที่ราคาแพงกว่า เพราะจะมีเกณฑ์ต้องซื้อภายในประเทศก่อน และซื้อต่างประเทศเท่าที่ขาด ทำให้ข้าวโพดในประเทศไม่กระทบ
นอกจากนี้ ยังมีเสนอซื้อ กากถั่วเหลือง และ ปลา ที่จะทำเหมือนการซื้อข้าวโพดจากสหรัฐ แต่ยังต้องทำการบ้านกันต่อ
นายพิชัย กล่าวว่า ในส่วนที่สหรัฐไม่พอใจที่ไทยเป็นประเทศผ่านสินค้าที่ไม่ได้ผลิตจากประเทศไทยจริง ก็จะต้องคุยกันว่าสินค้าส่งออกจากไทยผลิตจากไทย ตามเงื่อนไขสากล ต้องส่งวัตถุดิบ และเปลี่ยนแปลงจริง มีการเปลี่ยนแปลงพิกัดภาษี รวมถึงไทยจะเข้าไปดูคือ เรื่องมาตรฐานของสินค้า ได้คุยกับกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เข้าไปดูรายละเอียด ระบบ QC สินค้าที่ออกมาต้องได้มาตรฐาน ที่ผ่านมาไม่ได้เข้มงวดมากนัก เราจะเข้มงวดมากขึ้น ทำให้สหรัฐมั่นใจมากขึ้น
“ไทยจะลดภาษีสินค้าให้สหรัฐ เท่ากับประเทศอื่น ที่ได้ต่ำสุดในขณะนี้ จะไม่ได้ลดต่ำกว่าประเทศอื่นที่ได้รับอยู่” นายพิชัย กล่าว
นายพิชัย ไทยยังจะมีแผนเสนอสหรัฐ นำเข้าการก๊าซธรรมชาติจากสหรัฐ ที่ราคาถูก 2 เหรียญตัน จากที่ไทยซื้อประเทศอื่น 8-10 เหรียญต่อตัน แต่การซื้อจากสหรัญยังไม่ได้คิดค่าขนส่ง ก็จะต้องดูรายละเอียดแล้วว่าเมื่อรวมค่าขนส่งแล้วจะราคาแพงกว่าที่เคยซื้ออยู่หรือไม่
นอกจากนี้ ในการพูดคุยกับสหรัฐ ไทยจะบอกว่า บริษัทการบินไทย ของประเทศไทยมีแผนซื้อเครื่องบินโบอิง ของสหรัฐจำนวนหลายลำ มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท
นายพิชัย กล่าวว่า วันเสาร์อาทิตย์ และจันทร์ คุยภาคอุตสาหกรรมอื่น การหารือจะเกิดในเดือนนี้ รอเขาไม่ไหว มีโอกาสที่จะได้คุยในเดือนนี้ จะไปเจอคนใกล้ทรัมป์ พูดหลักการ หากโอเค ก็ไปพูดกับยูเอาดีอาร์ และรายละเอียดต่างๆ ต่อไป ต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน
“วันเสาร์อาทิตย์ และจันทร์ คุยภาคอุตสาหกรรมอื่น และมีการแถลงให้ทราบ จะพยายามให้การหารือกับสหรัฐเกิดขึ้นในเดือนนี้ จะรอเขากวักมือไปหาไม่ไหว ต้องหาทางให้ได้คุยซึ่งกำลังประสานอยู่ เพราะการคุยรอบแรก คงได้พูดคุยคนใกล้ตัวทรัมป์ เพื่พูดคุยในหลักการ ว่าโอเคไหม หากโอเค ก็ไปพูดกับทีมเจรจาการค้าของสหรัฐ หลังจากนั้นก็ต้องพูดคุยกับผู้ตัดสินใจทางนโยบายรายละเอียดจริงอีกที ซึ่งต้องใช้เวลาดำเนินการอีกหลายเดือน” นายพิชัย กล่าว