
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ขอให้มั่นใจ ทีมของรัฐบาลโดยท่านพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ทีมกระทรวงพาณิชย์ที่นำโดยท่านปลัดวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ และผม ทำงานกันหนัก มีรายละเอียดการเจรจาทุกขั้นตอน เชื่อว่า ไทยกับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์กันมายาวนาน จะหาทางออกที่เป็นประโยชน์ร่วมกันได้แน่นอน และมั่นใจว่าจะสามารถเจรจาได้สำเร็จ
รมว.พาณิชย์ ยังระบุว่า ขณะนี้บริษัทสหรัฐฯ รายใหญ่ เช่น Western Digital, Seagate และบริษัทอื่นๆ ซึ่งลงทุนในไทย ได้เข้าหารือและให้ข้อมูลเพื่อช่วยไทยเตรียมข้อเสนอที่ชัดเจน ไทยไม่ได้อยู่ใน 10 อันดับแรกของผู้ส่งออกสินค้าที่ได้รับผลกระทบ การเจรจาจึงง่ายขึ้น และจะดำเนินการให้สำเร็จโดยเร็ว โดยในวิกฤตนี้ ไทยยังมีโอกาสช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดจากประเทศอื่นในสินค้าบางรายการ เช่น ถุงมือยาง ยางรถยนต์ ผลิตภัณฑ์จากยาง ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ยานยนต์ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลไม้แปรรูป ที่ไทยสามารถเพิ่มยอดส่งออกได้
สำหรับมาตรการป้องกันปัญหาสินค้าสวมสิทธิ์แหล่งกำเนิด ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์กำลังเข้มงวดการออกเอกสารรับรองถิ่นกำเนิด (Certificate of Origin) เพื่อให้สินค้าที่ส่งออกเป็นสินค้าจากไทยจริง ไม่ใช่สินค้านำเข้ามาเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยแล้วส่งออก ได้มอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานออกหนังสือรับรอง Form C/O สำหรับสินค้าเฝ้าระวังไปสหรัฐฯ เพียงหน่วยงานเดียว
และท่านนายกฯ ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมายโดยเฉพาะการลักลอบนำเข้าสินค้าต่างชาติผิดกฎหมายที่ไม่ผ่านมาตรฐาน โดยมอบหมายให้ตนเป็นประธาน รัฐบาลได้จับกุมสินค้าผิดกฎหมายแล้วกว่า 29,675 คดี มูลค่า 1,796 ล้านบาท และดำเนินคดีเกี่ยวกับนอมินีไปแล้ว 852 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 15,188 ล้านบาท
ในด้านความคืบหน้าการเปิดตลาดการค้าเสรี (FTA) นายพิชัยเผยว่า ปีนี้ไทยลงนาม FTA ไปแล้ว 2 ฉบับ คือ ไทย–เอฟตา และไทย–ภูฏาน โดยตั้งเป้าเร่งปิดการเจรจา FTA ไทย–อียู ให้สำเร็จภายในสิ้นปีนี้ รวมถึง FTA อื่น ๆ เช่น ไทย–เกาหลีใต้ ไทย–ยูเออี และอาเซียน–แคนาดา
นายพิชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า การส่งออกไทยยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยในปี 2567 ขยายตัว 5.4% มูลค่า 300,529.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ทะลุ 10 ล้านล้านบาท สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ และไตรมาสแรกของปี 2568 ขยายตัว 15.2% โดยตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศในช่วงเวลา 6 เดือน การส่งออกไทยโตอย่างต่อเนื่องขยายตัวเฉลี่ยถึง 12.9% สะท้อนความเข้มแข็งของการส่งออกไทยที่เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพราะผลกระทบจากภาษีทรัมป์อย่างเดียว และรัฐบาลพร้อมเดินหน้าเพิ่มขีดความสามารถส่งออกในอุตสาหกรรมอนาคต เช่น PCB เซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า AI และ Data Center โดยจะร่วมมือใกล้ชิดกับภาคเอกชนในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยให้เติบโตยั่งยืน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในตลาดโลกต่อไป