พิษสหรัฐขึ้นภาษีแรงเกินประมาณ คาดจีดีพีไทยเหลือ 1.5%

Date:

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) ประเมินว่า ทรัมป์ประกาศเลื่อนการขึ้นภาษีตอบโต้ออกไป 90 วัน เพื่อเปิดให้เจรจา แต่ความเสี่ยงใหญ่ของโลกยังคงอยู่

ในวันที่ 9 เม.ย. ทรัมป์ประกาศเลื่อนการขึ้นภาษีศุลกากรตอบโต้รายประเทศ (Reciprocal tariff) ออกไปอีก 90 วัน เพื่อให้ประเทศต่าง ๆ มีโอกาสเจรจาปรับลดภาษี แต่ยังคงอัตราภาษีนำเข้าขั้นต่ำทุกประเทศที่ 10% ไว้ ขณะที่ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจีนอีกหลายรอบ รวมเป็น 145% หลังจีนประกาศขึ้นภาษีตอบโต้สหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ นำไปสู่สงครามการค้าเต็มรูปแบบของสองเศรษฐกิจใหญ่ของโลก

แม้สหรัฐฯ จะเปิดช่องให้เจรจาภาษีในช่วง 3 เดือนข้างหน้า แต่ SCB EIC มองว่า มาตรการภาษีนำเข้าชุดใหญ่ที่สหรัฐฯ ประกาศไว้เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2025 จะยังคงเป็นความเสี่ยงสำคัญที่สร้างความไม่แน่นอนกดดันการค้า การลงทุน และเศรษฐกิจโลกสูง

อัตราภาษีนำเข้าที่สหรัฐฯ ตั้งให้สินค้าจากไทยที่ 36% นั้น ถือว่าอยู่ในเกณฑ์สูง สะท้อนสัดส่วนการเกินดุลการค้าของไทยกับสหรัฐฯ ที่สูง โดยอัตราภาษีตอบโต้ไทยสูงเป็นอันดับ 20 จาก 185 ประเทศคู่ค้าสหรัฐฯ และเป็นอันดับ 10 ของเอเชีย สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก (17%) และค่าเฉลี่ยเอเชีย (23%) จึงต้องจับตามองการเจรจาที่จะเกิดขึ้นว่าจะสามารถลดอัตราภาษีนำเข้านี้ได้มากน้อยอย่างไร

ภายใต้การค้าโลกที่ชะลอลงและความไม่แน่นอนที่สูงขึ้น เศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก โดยเฉพาะการส่งออกสินค้า ทั้งผลทางตรงจากการที่ไทยส่งออกตลาดสหรัฐฯ สูงเป็นอันดับ 1 และผลทางอ้อมผ่านเศรษฐกิจคู่ค้าหลักชะลอตัว (เช่น จีน) การแข่งขันทางการค้ารุนแรงขึ้น และการลงทุนชะลอจากความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีเพิ่มเติมในระยะข้างหน้า

SCB EIC ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยปี 2025 จะเติบโตชะลอลงเหลือ 1.5% (เดิม 2.4%) จากทั้งสงครามการค้าและแผ่นดินไหว รวมทั้ง ประเมิน กนง. มีแนวโน้มลดดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มอีก 3 ครั้งไปอยู่ที่ 1.25% ณ สิ้นปี 2025 (เดิม 1.50%) เพื่อดูแลเศรษฐกิจที่ชะลอลงมากภายใต้ความไม่แน่นอนสูง

รัฐบาลควรเร่งเจรจาลดผลกระทบภาษีครั้งใหญ่นี้ โดยเน้นสิ่งที่สหรัฐฯ ให้ความสำคัญ 3 เรื่อง คือ ลดการเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ลดมาตรการกีดกันการค้าที่ไม่ใช่ภาษี และแก้ปัญหาสำคัญอื่น ๆ เช่น การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สิทธิเสรีภาพแรงงาน รัฐบาลควรเจรจาบนผลประโยชน์ในภาพรวมและมีกลไกดูแลผลกระทบของภาคส่วนต่าง ๆ อย่างเหมาะสม ควบคู่กับการเร่งสร้างความเข้มแข็งภายในประเทศทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

รมว.พลังงาน สั่งลดราคาน้ำมัน 50 สตางค์ต่อลิตร

รมว.พลังงาน ลดราคาน้ำมันดีเซล และน้ำมันเบนซิน 50 สตางค์ต่อลิตร เพื่อบรรเทาค่าครองชีพให้กับประชาชน

“ชลัช รัตนบุญนิธิ” นั่งเอ็มดี EXIM BANK คนใหม่

คณะกรรม EXIM BANK ตั้ง “ชลัช รัตนบุญนิธิ” เป็นกรรมการผู้จัดการ คนใหม่

EXIM BANK เปิดตัว ปั้น SMEs ไทยสู่เวทีการค้าโลก

EXIM BANK เปิดตัว “หลักสูตร EXIM 2X รุ่นที่ 1 ปี 2568” ปั้น SMEs ไทยสู่เวทีการค้าโลก

คปภ. จัดประชุมหารือแนวทางการลดข้อร้องเรียนด้านการประกันภัย

คปภ. จัดประชุมหารือแนวทางการลดข้อร้องเรียนด้านการประกันภัย ร่วมผลักดันระบบคุ้มครองสิทธิประโยชน์ประชาชนให้มีประสิทธิภาพ