“อมตะ” แนะผู้ประกอบการไทยปรับตัวรับผลกระทบภาษีทรัมป์

Date:

นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการและรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA เปิดเผยว่า จากนโยบายการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของรัฐบาลสหรัฐ ที่เรียกเก็บจากประเทศผู้ส่งออกทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย เชื่อว่าทุกประเทศที่เป็นฐานผลิตเพื่อการส่งออกจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน  แต่จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับผลการเจรจา ซึ่งผู้ผลิตต้องปรับตัวเพื่อลดผลกระทบดังกล่าว เช่นการขยายไปยังตลาดใหม่ๆ  ลดการพึ่งพิงตลาดสหรัฐฯเพียงอย่างเดียว ปรับแผนการผลิตโดยวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่สอดรับกับทิศทางของตลาด เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการกระจายสินค้าไปได้ทั่วโลก

ขณะเดียวกันมูลค่าการค้าระหว่างกลุ่มประเทศในอาเซียน มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ย 10% ในทุกๆปี  ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการค้าในอาเซียน และจีนเป็นตลาดใหญ่ โดยเฉพาะจีน ที่มีจำนวนประชากรและอัตราการเติบโตรายได้ต่อหัวค่อนข้างสูงทำให้ยังเป็นโอกาสสำหรับสินค้าไทยที่จะส่งออกไปยังประเทศจีน โดยอาศัยความได้เปรียบในด้านภูมิศาสตร์ที่สามารถส่งสินค้าไปได้ ทั้งระบบขนส่งโดย รถยนต์ และระบบราง เป็นต้น  

“สิ่งที่เกิดขึ้นเราต้องปรับตัวให้ได้ เพราะผู้ประกอบการที่ใช้ไทยเป็นฐานการผลิต ไม่ได้มีเป้าหมายส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ อย่างเดียว แต่ส่งสินค้าไปยังทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นยางรถยนต์ แอร์  ทำให้เกิดกระจายตลาดไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก จากอดีตที่ตลาดส่งออกของไทยให้ความสำคัญกับ 3 กลุ่มประเทศหลักประกอบด้วย สหรัฐฯ  ยุโรป และญี่ปุ่น  ซึ่งกินส่วนแบ่งตลาดอย่างน้อย 20% ในแต่ละประเทศ แต่สถานการณ์ปัจจุบันจะพึ่งพิงตลาดในอาเซียน และจีนเพิ่มขึ้น ทำให้สัดส่วน ของ 3ประเทศหลักเดิม มีสัดส่วนลดลงมาอย่างต่อเนื่อง” นายวิกรมกล่าว 

นายวิกรม กล่าวว่า การปรับตัวที่จะสามารถยังคงรักษาการเติบโตต่อไปได้ ต้องนำบทเรียนของประเทศต่าง ๆ ที่พัฒนาเศรษฐกิจให้เข้มแข็ง แม้ว่าต้องเผชิญปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจในทุกรูปแบบมาโดยตลอด เช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และจีน รวมทั้งสิงคโปร์ ที่เป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ  โดยเริ่มการพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศ จากการเปิดรับ บุคลากร ที่มีความสามารถจากประเทศอื่นๆ เข้ามาร่วมมือกับคนในประเทศ ขณะที่ประเทศไทยควรนำมาเป็นแบบอย่าง เช่น ดึงคนเก่งจากต่างประเทศมาเพื่อให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนาศักยภาพในการผลิตและบุคคลากร  รวมถึงนำนวัตกรรมและเทคโนโลยี หรือ โนฮาวน์ มาพัฒนาการผลิตสินค้าใหม่ๆตรงกับความต้องการของตลาด  เพื่อยกระดับสินค้าไทย 

“ปัจจุบัน ผู้ประกอบการที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะของไทยส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตเพื่อการส่งออก 80% เป็นการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูง สามารถกระจายไปยังทั่วโลก และพึ่งพิงตลาดในประเทศเพียง 20%” นายวิกรมกล่าว

ด้านนายโอซามู ซูโด รักษาการประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) กล่าวว่า  เชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมไทยและปรับตัวเพื่อรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก รวมถึงปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ได้รับผลจากขึ้นภาษีของสหรัฐฯเนื่องจากเรามีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและให้บริการที่เหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจระดับโลก ซึ่งช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนในการเลือกไทยเป็นฐานการผลิตและการลงทุน รวมถึงศักยภาพทางภูมิศาสตร์ที่เหมาะสมและเป็นศูนย์กลางทางการผลิตในภูมิภาคเอเชียทำให้เราสามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติได้อย่างต่อเนื่อง 

สำหรับแผนเดินหน้าของของกลุ่มอมตะในปีนี้ ยังคงรักษาการเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากบริษัทกลุ่มอมตะ มีนิคมอุตสาหกรรมในหลายประเทศที่รองรับการลงทุนในพื้นที่เศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน ทั้งนิคมฯ อมตะในไทยประเทศเวียดนาม    และที่อยู่ระหว่างการพัฒนาใน สปป.ลาว   ดังนั้นการตัดสินใจของนักลงทุนที่เข้าไปลงทุนในนิคมฯ ต้องใช้องค์ประกอบหลายด้านในการย้ายฐานการผลิต เพราะเป็นการลงทุนระยะยาว ต้องพิจารณาถึงสิทธิประโยชน์ โครงสร้างพื้นฐาน ศักยภาพแรงงาน สิ่งอำนวยความสะดวกต่อการลงทุน  ที่สำคัญผู้ประกอบได้มีการเตรียมตัว และคาดการณ์เพื่อรับผลกระทบที่เกิดขึ้นของตลาดสหรัฐฯล่วงหน้าอยู่แล้ว และส่วนใหญ่เตรียมแผนรับมือกับสถานการณ์เกิดขึ้นไว้ในระดับหนึ่ง

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

บ “บริษัท มายคาร์ เซอร์วิส พลัส 1989 จำกัด” ขายประกันภัยรถยนต์ปลอม

คปภ. ร่วมกับ ตำรวจสอบสวนกลาง จับ “บริษัท มายคาร์ เซอร์วิส พลัส 1989 จำกัด” ขายประกันภัยรถยนต์โดยไม่ได้รับอนุญาต พบผู้เสียหายเกือบ 500 ราย มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท

ไทยพาณิชย์ โพรเทค มุ่งยกระดับคนรุ่นใหม่สู่โลกประกันยุคดิจิทัล

ไทยพาณิชย์ โพรเทค จับมือ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เดินหน้าโครงการ “Internverse” มุ่งยกระดับคนรุ่นใหม่สู่โลกประกันยุคดิจิทัล

แอป CIMB THAI นำหนึ่งก้าวด้านความปลอดภัย

แอป CIMB THAI นำหนึ่งก้าวด้านความปลอดภัย ออกฟีเจอร์ใหม่ App Lock ล็อกทั้งแอป

InterGOLD ปักธงผู้นำแพลตฟอร์มทองคำดิจิทัล

InterGOLD ปักธงผู้นำแพลตฟอร์มทองคำดิจิทัล ขยายตลาดรับทองจริงทั่วไทย นำร่องเชียงใหม่