ราคาวัสดุก่อสร้าง เพิ่มขึ้น 12 เดือนติดต่อกัน

Date:

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (ผอ.สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือนพฤษภาคม 2568 เท่ากับ 113.3 เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2567 (YoY) สูงขึ้นร้อยละ 0.3 จากความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างในโครงการก่อสร้างภาครัฐและการปรับปรุงซ่อมแซมอาคารและที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างขยายตัว โดยมีรายละเอียด ดังนี้

หมวดไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ สูงขึ้นร้อยละ 0.9 จากการสูงขึ้นของไม้พื้น ไม้แบบ วงกบประตู และวงกบหน้าต่าง จากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น รวมทั้งมีความต้องการใช้ในงานตกแต่งภายในขยายตัวเพิ่มขึ้น

หมวดซีเมนต์ สูงขึ้นร้อยละ 4.7 จากการสูงขึ้นของปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ปูนซีเมนต์ผสม และปูนฉาบสำเร็จรูป จากการปรับราคาของผู้ผลิต เนื่องจากมีความต้องการใช้ในโครงการก่อสร้างภาครัฐและการซ่อมแซมอาคารที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น หมวดผลิตภัณฑ์คอนกรีต สูงขึ้นร้อยละ 0.8 จากการสูงขึ้นของเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็ก เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง และคอนกรีตผสมเสร็จ จากราคาวัตถุดิบสูงขึ้น (ปูนซีเมนต์ ทราย)

หมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ลดลงร้อยละ 3.6 จากการลดลงของเหล็กเส้นกลมผิวเรียบ เหล็กเส้นกลมผิวข้ออ้อย เหล็กตัวซี และเหล็กตัว H จากวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่ยังไม่ฟื้นตัว และมาตรการทางภาษีของสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้อุปทานเหล็กส่วนเกินในตลาดโลกสูงกดดันราคาเหล็กและราคาวัตถุดิบในการผลิตเหล็ก (บิลเล็ต เศษเหล็ก) ปรับราคาลดลง

หมวดกระเบื้อง ลดลงร้อยละ 0.6 จากการลดลงของกระเบื้องเคลือบบุผนัง กระเบื้องเคลือบปูพื้น และกระเบื้องยาง PVC ปูพื้น เนื่องจากความต้องการใช้ลดลงตามการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน

หมวดวัสดุฉาบผิว ลดลงร้อยละ 0.8 จากการลดลงของสีน้ำอะครีลิคทาภายใน สีรองพื้นปูน และสีทาถนนชนิดสะท้อนแสง เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบลดลงตามราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่ปรับลดลง รวมทั้งกำลังซื้อของผู้บริโภคชะลอตัว

หมวดสุขภัณฑ์ ลดลงร้อยละ 1.7 จากการลดลงของโถส้วมชักโครก ฝักบัวอาบน้ำ และราวจับสแตนเลส เนื่องจากความต้องการใช้ลดลงตามการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน หมวดอุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา สูงขึ้นร้อยละ 1.6 จากการสูงขึ้นของสายส่งกำลังไฟฟ้า NYY สายไฟฟ้า VCT ท่อ PE และท่อระบายน้ำเสีย PVC เนื่องจากมีความต้องการใช้ในโครงการก่อสร้างด้านสาธารณูปโภคของภาครัฐที่เพิ่มขึ้น

หมวดวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ สูงขึ้นร้อยละ 4.1 จากการสูงขึ้นของยางมะตอย และวัสดุธรรมชาติ (หินคลุก ดิน ทรายหยาบ) เนื่องจากมีความต้องการใช้ในโครงการก่อสร้างและการซ่อมแซมด้านคมนาคมของภาครัฐเพิ่มขึ้น

นายพูนพงษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างเดือนมิถุนายน 2568 มีแนวโน้มลดลงจากหลายปัจจัยทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ ดังนี้ (1) ความเข้มงวดการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินจากอัตราหนี้เสียและหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ยังคงกดดันการฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มผู้มีรายได้ระดับปานกลางลงมา (2) ต้นทุนค่ากระแสไฟฟ้า ปรับลดลงเหลือ 3.98 บาทต่อหน่วย ในรอบเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2568 ตามมติของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) (3) ราคาพลังงานและราคาน้ำมันในตลาดโลกที่มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากกลุ่มประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก (OPEC+) มีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน (4) ความไม่แน่นอนของการบังคับใช้มาตรการทางภาษีของสหรัฐอเมริกา ทำให้ผู้ประกอบการจากต่างประเทศหาตลาดใหม่ทดแทน และทำให้มีสินค้าวัสดุก่อสร้างสำคัญ อาทิเช่น เหล็กเส้น ท่อเหล็ก อลูมิเนียม เป็นต้น มีการระบายสินค้าสู่ตลาดอาเซียนและประเทศไทยมากขึ้น เกิดการแข่งขันด้านราคากับผู้ประกอบการภายในประเทศ (5) วิกฤติอสังหาริมทรัพย์ของจีนที่ยังไม่ฟื้นตัว และ

จีนยังคงไม่มีนโยบายลดกำลังการผลิตเหล็ก ส่งผลต่ออุปทานเหล็กในตลาดโลก ซึ่งปัจจัยภายนอกมีความผันผวนสูงอาจจะส่งผลให้ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ จะต้องมีการติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป  

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

นายกฯ แสดงความเสียใจ ตัวประกันไทยเสียชีวิตในกาซา

นายกฯ แสดงความเสียใจ ตัวประกันไทยเสียชีวิตในกาซา เรียกร้องคืนร่างทั้งหมดกลับสู่ไทย

นิสสัน คว้าสามรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยม

นิสสัน คว้าสามรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2568

“GO Sustainable with krungsri ก้าวเพื่อสังคมที่ยั่งยืนของเรา”

กรุงศรีเดินหน้าแคมเปญการตลาดภายใต้แนวคิด “GO Sustainable with krungsri ก้าวเพื่อสังคมที่ยั่งยืนของเรา”

“จระเข้” ผนึก “แสนสิริ” พลิกโฉมวงการอสังหาฯ

"จระเข้" ผนึก "แสนสิริ" พลิกโฉมวงการอสังหาฯ ผ่านแนวคิด Health & Well-Being Living มุ่งสู่อนาคตการอยู่อาศัยที่ยั่งยืน