
อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า ไทยจะสู้เวียดนามอย่างไรในสงครามการค้า? เมื่อเวียดนามเร่งเปิดประเทศ ดึงนักลงทุน และจับมือทางการค้าได้รวดเร็วกว่าไทย ความท้าทายของเราคือจะ “ปรับตัวอย่างไรให้ทัน และเป็นผู้นำในเกมการค้าใหม่ได้”
1. คัดอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ ที่ไทยมีศักยภาพและมูลค่าสูงสุด
ไทยควรโฟกัสที่อุตสาหกรรมที่ให้ “มูลค่าเพิ่มสูง” เช่น ดิจิทัล เทคโนโลยีชีวภาพ ยานยนต์ไฟฟ้า ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ใช่เพียงแข่งในภาคแรงงานราคาถูกเหมือนอดีต
2. ใช้ทรัพยากรในประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ดึงศักยภาพของเกษตรกร แรงงานทักษะสูง และระบบโลจิสติกส์ของไทยมาพัฒนาอุตสาหกรรมต้นน้ำถึงปลายน้ำ เช่น กลุ่มอาหาร-สุขภาพ (food for the future) ซึ่งไทยมีพื้นฐานที่ดีกว่าเพื่อนบ้านหลายประเทศ
3. ปลดล็อกอุปสรรคการลงทุน
ต้องเร่งปฏิรูปขั้นตอนขอใบอนุญาต สิทธิประโยชน์ และกฎหมายที่ซับซ้อน เพื่อให้ต่างชาติอยากมาตั้งฐานการผลิตในไทย ไม่ใช่เวียดนามอย่างเดียว ลดการผูกขาด และเพิ่มการแข่งขันภายในประเทศ
4. เร่งเจาะตลาดใหม่ ไม่พึ่งแค่สหรัฐ
ขยายการส่งออกไปตะวันออกกลาง แอฟริกา อินเดีย และละตินอเมริกา พร้อมเร่งพัฒนาโลจิสติกส์ให้เข้าถึงตลาดใหม่เหล่านี้ได้สะดวกและต้นทุนต่ำ
5. เร่งทำ FTA รายประเทศ
นอกจาก CPTPP หรือ RCEP ที่เวียดนามเดินหน้าไปก่อนแล้ว ไทยควรเร่งเจรจา FTA กับประเทศสำคัญ เช่น สหภาพยุโรป อังกฤษ และกลุ่มประเทศในเอเชียใต้ เพื่อเปิดประตูตลาดใหม่และสร้างแต้มต่อทางภาษี
6. ปรับทักษะแรงงาน – เน้น upskill/reskill จริงจัง
ต้องมีแผนสร้างแรงงานทักษะสูงในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ไม่ใช่แค่เรียนตามกระแส แต่ต้องสอดคล้องกับการลงทุนจริงของประเทศ
ไทยไม่ได้ด้อยกว่าเวียดนามในทุกด้าน แต่หากไม่เร่งปรับตัวและคิดเชิงยุทธศาสตร์ เราอาจเสียตำแหน่งผู้นำการค้าในภูมิภาคโดยไม่รู้ตัว