นักท่องเที่ยวกลุ่ม High Spending สร้างรายได้ 1.74 ล้านล้าน

Date:

ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS ประเมินนักท่องเที่ยวต่างชาติเผชิญแรงกดดันจากตลาดนักท่องเที่ยวจีนที่หดตัวรุนแรง คาดปี 2568 จะอยู่ที่ราว 5.5 ล้านคน ฟื้นตัวเพียง 50% จากปี 2562 แต่ยังได้แรงหนุนจากนักท่องเที่ยวกลุ่ม High Spending จะมีส่วนช่วยพยุงรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มีมูลค่าราว 1.74 ล้านล้านบาท ฟื้นตัวที่ระดับ 91% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด แนะสนับสนุนทุนสร้างภาพยนตร์หรือซีรีส์ต่างชาติในประเทศไทย จะเป็นแรงกระเพื่อมด้าน Soft Power ที่สำคัญ และเป็นหนึ่งในโอกาสใหม่สำหรับภาคท่องเที่ยวของไทย

ดร.สุปรีย์ ศรีสำราญ ผู้อำนวยการฝ่าย ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS เปิดเผยว่า ในช่วง 1-2 ปีนี้ นับเป็นปีแห่งความท้าทายของภาคท่องเที่ยวไทยที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เคยเป็นกลุ่มรายได้หลักส่งสัญญาณลดลงอย่างมากต่อเนื่อง และอาจจะฟื้นได้ราว 50-65% เท่านั้น เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด แต่ยังได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของนักท่องเที่ยวกลุ่มแมสอย่างมาเลเซีย และอินเดีย และกลุ่ม High Spending อาทิ ยุโรป รัสเซีย และอิสราเอล ที่เข้ามาช่วยพยุงรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มีมูลค่าราว 1.74-1.95 ล้านล้านบาท ซึ่งสถานการณ์ในครั้งนี้คงกระทบต่อผู้ประกอบการใน Supply Chain ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของนักท่องเที่ยวต่างชาติ นับเป็นโจทย์ใหญ่ที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน ทั้งนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐที่เอื้อต่อการท่องเที่ยว และช่วยประคับประคองผู้ประกอบการใน Supply Chain อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ควบคู่กับการปรับตัวของภาคเอกชนให้สอดคล้องกับเทรนด์การท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป และเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้ง Ecosystem เพื่อผลักดันให้ไทยกลับมาครองใจนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หลากหลายมากขึ้น และลดการพึ่งพานักท่องเที่ยวกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมากจนเกินไป รวมทั้งเป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างและกระจายรายได้”

นายกณิศ อ่ำสกุล นักวิเคราะห์ ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS กล่าวว่า 3 เหตุผล ที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนไม่มาไทยในช่วง 1-2 ปีนี้ ได้แก่ 1) ภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยของประเทศไทย โดยผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัยในไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ช้ากว่าในอดีต โดยอาจใช้เวลาถึง 1 ปี กว่าที่นักท่องเที่ยวจีนจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ 2) พฤติกรรมและกลุ่มของนักท่องเที่ยวจีนที่เปลี่ยนไป โดยนักท่องเที่ยวจีนกลุ่ม F.I.T. ที่มักมองหาประสบการณ์การท่องเที่ยวใหม่ๆ มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นชัดเจน ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของไทย อาจมีความแปลกใหม่ที่น้อยกว่าประเทศคู่แข่งเช่น ญี่ปุ่น เวียดนาม เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และมาเลเซีย ที่มีการพัฒนา Destination ใหม่ๆ 3) ผลกระทบจากภาวะ เศรษฐจีนที่ชะลอตัว ส่งผลให้กำลังซื้อของชาวจีนยังไม่กลับมาในระดับเดิม ทำให้นักท่องเที่ยวจีนบางส่วนเลือกเดินทางในประเทศทดแทนการท่องเที่ยวต่างประเทศที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง

นายธนา ตุลยกิจวัตร นักวิเคราะห์ ศูนย์วิจัย Krungthai COMPASS กล่าวเสริมว่า ปัจจัยหลักที่ฉุดรั้งการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวไทย คือ นักท่องเที่ยวจีนที่ยังไม่กลับมา และยังต้องแข่งขันกับประเทศในภูมิภาคที่ทำการตลาดเชิง รุกมากขึ้น แม้ว่าตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆ เช่น มาเลเซีย อินเดีย รัสเซีย และยุโรป จะมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แต่ยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยการหายไปของนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งจะยิ่งซ้ำเติมปัญหาการกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวที่ไม่ทั่วถึง โดยแรงหนุนจากนักท่องเที่ยวกลุ่ม High Spending ที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น จะส่งผลดีต่อธุรกิจโรงแรมในระดับ 4-5 ดาว แต่ธุรกิจ อื่นๆ ยังต้องเผชิญแรงกดดันจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนหดตัวรุนแรง เช่น โรงแรมในระดับไม่เกิน 3 ดาว ร้านอาหาร Street Food คอนโดมิเนียม รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอย่างธุรกิจรถเช่า ร้านขายของที่ระลึก บริษัทนำเที่ยว ฯลฯ และอาจขยายวง กว้างไปยังธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจจำหน่ายเครื่องใช้และของตกแต่งในโรงแรม เป็นต้น

“ภาครัฐยังเป็นกำลังสำคัญที่มีบทบาทในการพยุงภาคท่องเที่ยวไทยให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ท้าทายในครั้งนี้ ด้วยมาตรการต่างๆ ที่เข้มข้น และครอบคลุมทุกมิติอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ทั้งมาตรการเรียกความเชื่อมั่นและดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ พร้อมๆ ไปกับมาตรการที่ช่วยพยุงผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบอย่างจริงจัง

นอกจากนี้ Krungthai COMPASS มองว่าการสนับสนุนทุนสร้างภาพยนตร์หรือซีรีส์ต่างชาติในประเทศไทย จะเป็นอีกหนึ่งมาตรการที่ช่วยสร้างแรงกระเพื่อมด้าน Soft Power  ที่สำคัญ และเป็นหนึ่งในโอกาสใหม่สำหรับภาคท่องเที่ยวของไทย โดยประเมินว่าจุดคุ้มทุน (Break-even) ของการโปรโมทประเทศไทยด้วยวิธีออกทุนผลิตซีรีส์ 1 EP จะอยู่ที่การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ 500-1,000 คน”

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

พิชัย ยังปิดเงียบชื่อผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่

พิชัย ยังปิดเงียบชื่อผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ ไม่บอกชงชื่อ “วิทัย” หรือ “ดร.รุ่ง” ให้ ครม. เห็นชอบ

“พิชัย” แย้มลดภาษีนำเข้า 0% ให้สหรัฐฯ

“พิชัย” แย้มลดภาษีนำเข้าเหลือ 0% ให้สหรัฐฯหลายรายการ มั่นใจข้อเสนอน่าสนใจ

ตลาดหุ้นไทย ลดลงแล้ว 22.2%

ตลาดหุ้นไทยเดือนมิ.ย. 68 ลดลง 5.2% รวมตั้งแต่ต้นปีลดลงแล้ว 22.2% จากสารพัดปัจจัยเสี่ยง

สนามบินสมุย คว้ารางวัล Top 10

บางกอกแอร์เวย์ส และสนามบินสมุย คว้ารางวัล Top 10 สุดยอดสายการบินและสนามบินแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก