
ศูนย์วิจัยกรุงศรี ประเมินว่า เศรษฐกิจเดือนพฤษภาคมชะลอลงจากการผลิตภาค อุตสาหกรรม การลงทุน และภาคท่องเที่ยว ขณะที่การบริโภคทรงตัว ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาพรวมเศรษฐกิจในเดือนพฤษภาคมชะลอลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน ตามการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ลดลง (-0.6% MoM sa) โดยเฉพาะการผลิตในหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ลดลงหลังเร่งผลิตไปก่อนหน้า เช่นเดียวกับการลงทุนภาคเอกชนปรับลดลง (-0.6%) จากหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์เป็นสำคัญ ส่วนภาคท่องเที่ยวชะลอลงทั้งรายรับ (-7.0%) และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ (-2.9%) ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนทรงตัว (+0.2%) และมูลค่าการส่งออกไม่รวมทองคำปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน (+8.6%)
เครื่องชี้เศรษฐกิจที่ชะลอลงในหลายภาคส่วนสะท้อนแรงส่งการเติบโตที่แผ่วลง ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 เผชิญแรงกดดันมากขึ้นจากหลายปัจจัย แม้จะได้รับแรงสนับสนุนบางส่วนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดกลางและเล็ก และการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม การเติบโตทางเศรษฐกิจจะเผชิญแรงกดดันที่มากขึ้นจาก (i) ภาคส่งออกและการลงทุนที่จะได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ (Reciprocal tariff) ซึ่งการเจรจายังไม่มีความคืบหน้าและมีความเสี่ยงที่จะไม่ทันกำหนดในวันที่ 9 กรกฏาคมนี้ (ii) สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่ยังมีความไม่แน่นอนบั่นทอนความเชื่อมั่นและอาจกระทบต่อการใช้จ่ายภาครัฐ รวมถึงการเจรจาทางการค้า และ (iii) ปัญหาเชิงโครงสร้างที่เป็นข้อจำกัดด้านการบริโภคภาคเอกชนภายใต้ภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง แม้จะมีการขยายมาตรการบรรเทาในโครงการคุณสู้ เราช่วย ก็ตาม ทั้งนี้ ภายใต้บริบทของเศรษฐกิจที่มีความเปราะบางมากขึ้นและแรงส่งการเติบโตที่มีแนวโน้มชะลอลงชัดเจน จึงอาจหนุนให้มีการผ่อนคลายนโยบายการเงินหรือปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมในช่วงครึ่งปีหลัง
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ทั้งจำนวนและรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติหดตัวลง จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้มีแนวโน้มต่ำกว่าคาด ในเดือนมิถุนายนมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยทั้งสิ้น 2.32 ล้านคน หดตัว -15.2% YoY เทียบกับ 2.27 ล้านคน ในเดือนพฤษภาคม สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวได้ 98.9 พันล้านบาท ลดลง
-20.3% ด้านนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาสูงสุด 5 อันดับแรกได้แก่ มาเลเซีย จีน อินเดีย สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ สำหรับในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ (มกราคม-มิถุนายน) มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 16.69 ล้านคน ลดลง -4.7% YoY สร้างรายได้ 7.72 แสนล้านบาท ลดลง -2.3%
ข้อมูลในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 สะท้อนว่าภาคการท่องเที่ยวของไทยยังไม่สามารถกลับเข้าสู่เส้นทางการฟื้นตัว เนื่องจากเผชิญแรงกดดันจากหลายปัจจัยสำคัญ (i) การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนที่ล่าช้า โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยลดลงถึง -34.1% YoY เหลือเพียง 2.27 ล้านคน หรือคิดเป็นเพียง 40.1% ของระดับก่อนการแพร่ระบาดของโควิดในปี 2562 (ii) เศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวอาจส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของนัก ท่องเที่ยวในหลายประเทศ (iii) การแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวของหลายประเทศในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น และเวียดนาม ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งแรกของปี แตกต่างจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทย ทั้งนี้ จากสัญญาณที่แสดงถึงการฟื้นตัวอย่างช้าๆของภาคท่องเที่ยว วิจัยกรุงศรีคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2568 มีความเสี่ยงที่จะต่ำกว่าจากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 36.5 ล้านคน