
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการการบินไทยที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาวาระเรื่องการเตรียมการจัดประชุมวิสามัญประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 19 ธันวาคม 2568 ซึ่งถือเป็นการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น
สำหรับวาระที่สำคัญของการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น คือการเพิ่มจำนวนกรรมการจาก 11 คน เป็น 15 คน ซึ่งกรรมการจะเสนอรายชื่อกรรมการใหม่ให้ ผู้ถือหุ้นลงมติเห็นชอบ และวาระเรื่องค่าตอบแทนกรรมการ ที่คณะกรรมการปัจจุบันยังไม่ได้รับผลตอบแทน เนื่องจากยังไม่เคยมีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น
นายลวรณ ยืนยันว่า ในปี 2568 บริษัทการบินไทยยังไม่มีการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น การประชุมในปีนี้ 2 ครั้งที่ผ่านมา เป็นการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งแรกประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2568 กรรมการฟื้นฟูเรียกวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติบางเรื่อง และการประชุมครั้งที่สองเป็นการประชุมวิสามัญตั้งกรรมการเพิ่มเมื่อตอนเดือนเมษายน 2568 ที่ผ่านมา โดยในหนังสือเชิญประชุมเขียนไว้ชัดว่าเป็นการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ไม่ใช่การประชุมสามัญ และที่สำคัญการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นจะต้องมีการหมุนเวียนกรรมการ ซึ่งจะต้องออก 1 ใน 3 โดยให้ผู้ถือหุ้นเลือกซึ่งเป็นสิทธิ์ของผู้ถือหุ้น ดังนั้นหากในปีนี้ยังไม่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเลยผู้ถือหุ้นก็จะถามว่าสิทธิ์ตรงตรงนี้หายไปไหนมันหายมันมีความเสี่ยง
ซึ่งตอนนี้การบินไทย กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 38% ซึ่งผู้ถือหุ้นจะในฐานะที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ต้องคำนึงถึงการกำหนดทิศทางของบริษัทที่ถูกต้อง ต้องไม่ให้เกิดความเสี่ยงเสียสิทธิ์ ทำให้บริษัทเกิดความเสียหาย
นายลวรณ กล่าวว่า การประชุมกรรมการล่าสุดที่ที่ผ่านมาได้เลือกคัดสรรกรรมการ 8 ท่าน จากที่กรรมการสรรหาคัดเลือกมาจำนวน 14 ท่าน จากรายชื่อที่ถูกเสนอมาทั้งหมด 17 ท่าน
ทั้งนี้กรรมการของการบินไทยปัจจุบันมีอยู่จำนวน 11 คนโดยการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นกรรมการจะต้องออก 1 ใน 3 ก็คือ 3 คนกว่า ก็ให้นับเป็น 4 คน ออกตามลำดับคนที่อยู่นานที่สุด 3 คน ประกอบด้วยนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์, นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร และพลอากาศเอก อำนาจ จีระมณีมัย
ที่อยู่มานานตั้งแต่บริษัทการบินไทยยังไม่เข้าแผนฟื้นฟู โดย 3 คนนี้ต้องออกตามกติกา
สำหรับคนที่ 4 จะต้องจับฉลากออก ซึ่งเพิ่งตั้งเข้าไปเมื่อตอนเดือนเมษายน 2568 ที่ผ่านมา ก็ต้องออกเหมือนกัน แต่คณะกรรมการมีการหารือกันว่าในส่วนของคนที่ 4 ที่ถูกจับออก ก็จะเสนอชื่อให้ผู้ถือหุ้นเห็นชอบ กลับเข้ามาเป็นกรรมใหม่ตามกติกาอีกครั้งหนึ่ง
นายลวรณ อธิบายเพิ่มเติมว่า ดังนั้นกรรมการจาก 11 คนออกไป 4 คนก็จะเหลือ 7 คนต้องตั้งกรรมการให้ครบ 15 คนก็ต้องตั้งใหม่อีก 8 คน และเนื่องจากมีกรรมการลาออกอีก 1 คน ก็ต้องมีกรรมการมาแทนที่ขอลาออกอีก 1 คน คณะกรรมการเลยเลือกใหม่ทั้งหมดจำนวน 9 คน เสนอให้ผู้ถือหุ้นเห็นขอบ เพื่อให้ครบ 15 คน
อย่างไรก็ตาม ตามกฎหมายของบริษัทมหาชน ให้สิทธิผู้ถือหุ้นที่ถือเกิน 5% เสนอชื่อกรรมการให้ผู้ถือเห็นชอบได้ 1 คน ซึ่งบริษัทการบินไทย มีผู้ถือหุ้นเกิน 5% อยู่ 2 ราย ก็เสนอชื่อกรรมการได้ราย 1 คน ทำให้จะมีชื่อกรรมการใหม่ให้ผู้ถือหุ้นได้เลือกเห็นชอบเป็น 9 + 2 คน
“คณะกรรมการการบินไทย เห็นชอบว่า ให้เลือกเลือกและเสนอชื่อกรรมการจำนวน 9 คน จากที่คณะกรรมการสรรหาตัดคัดมา 14 คน จาก 17 คน ผู้ถือหุ้นจะได้รู้สึกว่าคณะกรรมการของบริษัทได้ทำหน้าที่กลั่นกรองคนที่เหมาะสมเป็นกรรมการ ให้ผู้ถือหุ้นเห็นชอบ หากส่งไปทั้งหมด 14 ชื่อเลยผู้ถือหุ้นก็จะถามได้ว่าจะมีบอร์ดไว้ทำไม ไม่ยอมเลือกแล้วก็ส่งมาให้เค้าเป็นผู้เลือก” นายลวรณ กล่าว
นายลวรณ กล่าวว่า กรรมการทั้ง 9 คน ที่กรรมการจะเสนอชื่อให้ผู้ถือหุ้นเห็นชอบถือว่าดูดีมากเป็นมืออาชีพ และเป็นกรรมการอิสระ 8 คน ไม่ใช่ตัวแทนของใครทั้งสิ้น และไม่ใช่เป็นคนจากราชการเพราะไม่มีข้าราชการเลยซักคนเดียว หากดูประวัติการทำงานแต่ละคน จะทำให้บริษัทการบินไทยมีความเข้มแข็งในทุกด้าน
ไม่ว่าจะเป็น
1 ดร.วิรไท สันติประภพ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
2 นายรพี สุจริตกุล อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ทั้งสองคนนี้ จะทำให้บริษัทการบินไทยมีภาพลักษณ์ธรรมาภิบาลที่ดีขึ้น
3 นายณนน์ โภคทรัพย์ ถือว่าเป็นมือ Marketing ที่ดีที่สุดของประเทศไทยคนหนึ่ง เคยเป็นผู้บริหารธนาคารไทยพาณิชย์ และก็ห้างเซ็นทรัล ถือว่าเป็นบิ๊กเนมด้านการตลาด และบริษัทการบินไทย ก็ต้องคนทำ Marketing detail ดีๆ เข้ามาช่วย คุณณนน์ ก็จะมาใช้ความสามารถตรงนี้ช่วยการบินไทยได้อย่างมาก
4 นางชาริตา ลีลายุทธ เป็นกรมการในสำนักงานการการบินพลเรือน ซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญเรื่องการบินเป็นอย่างดี
5 นางชนัญญารักษ์ เพ็ชร์รัตน์ เป็นผู้บริหาร DHL บริษัทขนส่งสินค้าระดับโลก ซึ่งการบินไทยมีนโยบายที่ต้องทำคาร์โก้ให้มันดีขึ้น ซึ่งคุฯชนัญญารักษ์ จะเข้ามาเสริมตรงนี้ได้เป็นอย่างดี
6 นายพลากร หวั่งหลี เป็น CEO ของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด เป็นมือหนึ่งทางด้านการเงิน ซึ่งการบินไทยอยากได้นักการเงินเก่งๆ เข้ามาช่วยดูภาพรวม
7 นายวัชรา ตันตริยานนท์ อดีตบอร์ดการบินไทย
8 พลอากาศเอก อำนาจ จีระมณีมัย บอร์ดการบินไทยปัจจุบัน
9 นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร THAI
ทั้ง 3 คนก็มีความรู้เรื่องโครงสร้างของการบินไทยเป็นอย่างดี
“จะเห็นว่าแต่ละคนมีที่มาที่ไปในการเข้ามาเป็นกรรมการเพื่อที่จะทำให้บริษัทการบินไทยดีขึ้น หลังจากนี้เชื่อว่าการบินไทยก็จะเข้าที่เข้าทาง ไม่มีแบ่งกลุ่มแบ่งฝ่ายอีกต่อไป ทุกคนก็ต้องรักองค์กร เพราะการมีปัญหาที่ผ่านมาทำให้เห็นว่าภาพของความขัดแย้ง ทำให้ราคาหุ้นตกลงมาก ทั้งๆ ที่พื้นฐานของการบินไทยไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลย” นายลวรณ กล่าว




