
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเยี่ยมชมงาน Thailand Rice Fest 2025 และ Thailand Coffee Fest Year End 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4–7 ธันวาคม 2568 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี Hall 11–12 โดยในปีนี้กระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมมือกับ TDeD และ Rice Hub ร่วมยกระดับ “ข้าวประณีต” พร้อมจัดพื้นที่ GI Pavilion แสดงศักยภาพสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ไทย เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างโอกาสทางการตลาดใหม่ให้เกษตรกรและผู้ประกอบการทั่วประเทศอย่างยั่งยืน
นางศุภจี กล่าวว่า งานในปีนี้สะท้อนให้เห็นถึง “ความภูมิใจของเกษตรกรตัวจริง” ที่ต้องการผลิตข้าวคุณภาพสูงและมีอัตลักษณ์ โดยแนวคิด “ข้าวประณีต” ไม่ได้มาแทนที่ข้าวในตลาดทั่วไป แต่เป็นตลาด พรีเมียมทางเลือก ที่เปิดโอกาสให้เกษตรกร โดยเฉพาะรายย่อยสามารถแปรรูปและจำหน่ายข้าวพื้นถิ่นที่มีคุณค่าภายใต้มาตรฐานที่ตลาดต้องการ
กระทรวงพาณิชย์ สนับสนุนตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งเครื่องสีข้าว อบข้าว แพ็คข้าวขนาดเล็ก–กลาง รวมถึงการพัฒนามาตรฐานสินค้าและการตลาด ทำให้เกษตรกรสามารถขายข้าวในราคาสูงขึ้นจากเดิม 5–10 เท่า
ภายในงาน ได้นำเสนอผลงานของเกษตรกร 20 กลุ่มจากจังหวัดต่าง ๆ ทั้งชัยนาท นครสวรรค์ สุรินทร์ กาฬสินธุ์ สกลนคร อุดรธานี มหาสารคาม ยโสธร และพังงา แบ่งเป็น Tier 1 และ Tier 2 ตามศักยภาพด้านการผลิตและการตลาด
รมว.พาณิชย์ เปิดเผยข่าวดีว่า ในกิจกรรม Business Matching มีผู้ซื้อและผู้ขายได้เจรจาซื้อขายโดยตรงกับเกษตรกร และสามารถปิดดีลสั่งซื้อข้าวได้แล้วเบื้องต้น 450 ตัน มูลค่าประมาณ 16 ล้านบาท ซึ่งความสำเร็จนี้เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งกระทรวงพาณิชย์ กรมการค้าภายใน กรมทรัพย์สินทางปัญญา เกษตรกร TDeD The Cloud และ Rice Hub ที่ช่วยพัฒนาดาต้าบรรยายคุณลักษณะข้าว ตลอดจนภาคเอกชนที่ร่วมกันยกระดับสินค้าเกษตรไทยอย่างยั่งยืน
นอกจากการเปิดตัวข้าวประณีต ภายในงานยังมีบูธ GI Pavilion ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา และบริษัท คลาวด์แอนด์กราวนด์ จำกัด (The Cloud) นำผู้ประกอบการสินค้า GI และว่าที่ GI รวม 12 รายร่วมจัดแสดงสินค้า ทั้งข้าวและกาแฟอัตลักษณ์ชุมชน อาทิ
– ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ (ศรีสะเกษ)
– ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง
– ข้าวก่ำล้านนา (พะเยา)
– ข้าวเหนียวเขาวงกาฬสินธุ์
– กาแฟดอยตุง เชียงราย / กาแฟเทพเสด็จ เชียงใหม่ / กาแฟวังน้ำเขียว นครราชสีมา
รวมถึงสินค้าว่าที่ GI เช่น กาแฟมณีพฤกษ์ (น่าน)
นางศุภจี เปิดเผยเพิ่มเติมว่า สินค้า GI ไทยกว่า 244 รายการ สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแล้วกว่า 114,331 ล้านบาท จากคุณภาพและเรื่องราวอันโดดเด่นตามภูมิศาสตร์และภูมิปัญญาท้องถิ่น ทำให้สินค้า GI เป็น “กลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน”
ทั้งนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมสร้างประสบการณ์แก่ผู้บริโภคและผู้ประกอบการ เช่น Rice Matching ให้ธุรกิจร้านอาหาร–โรงแรมทดลองชิมข้าวพิเศษและสั่งซื้อล่วงหน้า นิทรรศการเล่าเรื่องข้าวไทยกว่า 10 สายพันธุ์ GI โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา การชิมกาแฟ GI จากพื้นที่ปลูกคุณภาพสูงทั่วประเทศ
และ Rice Pairing Workshop จับคู่ข้าวประณีตกับอาหารไทยแต่ละภูมิภาคโดยเชฟมืออาชีพ เป็นต้น
รมว.พาณิชย์ ระบุว่า งานนี้ไม่ใช่แค่กิจกรรม 4 วัน แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้าง “ระบบใหม่” ในการยกระดับผลผลิตเกษตรไทย ไม่ว่าจะเป็นข้าว กาแฟ หรือสินค้าอื่นๆ ในอนาคต ให้มีผลผลิตต่อไร่สูงขึ้นและสามารถเข้าสู่ตลาดพรีเมียมได้อย่างยั่งยืนทั้งในประเทศและต่างประเทศ
“ข้าวประณีตคือทิศทางของการพัฒนาข้าวไทยในระยะยาว เป็นกลไกที่ช่วยเพิ่มรายได้ให้ชาวนา ใช้จุดแข็งของพันธุ์พื้นถิ่น ภูมิปัญญาชุมชน และสร้างมูลค่าให้เกิดขึ้นในระบบ”นางศุภจีกล่าว
สำหรับงาน Thailand Rice Fest 2025 และ Thailand Coffee Fest Year End 2025 เปิดให้ประชาชนเข้าชมฟรีถึงวันที่ 7 ธันวาคม 2568 เวลา 10.00–20.00 น. ณ IMPACT Exhibition Center Hall 11–12




