“DITP” เผยดูไบ ขึ้นแท่นเมืองที่มีความยืดหยุ่นอันดับ 4 โลก 

Date:

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เผยดูไบ ขึ้นแท่นเมืองที่มีความยืดหยุ่นระดับโลกอันดับที่ 4 และอาบูดาบี อันดับที่ 13 จากการจัดอันดับของ GCRI แนะไทยศึกษา นำมาปรับใช้ในการพัฒนาเมือง โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้

นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทำการสำรวจลู่ทางการค้า และโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ตามนโยบายนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดได้รับรายงานจากนายปิติชัย รัตนนาคะ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถึงผลสำรวจการสำรวจดัชนีวัดความพร้อมและความสามารถของเมืองในการรับมือและฟื้นตัวจากวิกฤตต่างๆ 

ตามรายงานของ Global Cities Resilience Index (GCRI) โดยสถาบันที่ปรึกษาระดับโลก Kearney และสถาบัน Future Investment Initiative (FII) เกี่ยวกับเมืองดูไบ ที่ขึ้นแทนเป็นเมืองที่มีความยืดหยุ่นระดับโลกอันดับที่ 4 และอาบูดาบี อันดับที่ 13 ประจำปี 2568   

ทั้งนี้ ทูตพาณิชย์ได้รายงานว่า GCRI ได้จัดอันดับให้รัฐดูไบเป็นเมืองที่มีความยืดหยุ่นอันดับ 4 ของโลก และกรุงอาบูดาบีอยู่อันดับที่ 13 สะท้อนถึงบทบาทของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ในการเป็นแบบอย่างระดับโลกด้านการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนและอนาคต พร้อมทั้งเป็นมาตรฐานให้นานาประเทศนำไปปรับใช้รับมือกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี

สำหรับ GCRI เป็นดัชนีที่วัดความพร้อมและความสามารถของเมืองในการรับมือและฟื้นตัวจากวิกฤตต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยมีการประเมินและจัดอันดับเป็นประจำทุกปีจาก 31 เมืองใหญ่ทั่วโลก ดัชนีนี้ประเมินความยืดหยุ่น (Resilience) โดยพิจารณาจาก 5 มิติหลักสำคัญ ได้แก่ การกำกับดูแล สินเชื่อและธุรกิจที่ยั่งยืน เทคโนโลยีและนวัตกรรม ทุนมนุษย์ และการบูรณาการระดับโลก โดยเมืองที่ติดอันดับสูงสุด คือ ลอนดอน อัมสเตอร์ดัม และนิวยอร์ก 

ตามด้วยดูไบและโทรอนโต ซึ่งยูเออีติดโผเมืองแถวหน้าสองแห่ง สะท้อนยุทธศาสตร์ชาติที่มุ่งสร้างความยืดหยุ่นระยะยาวโดยเน้นนวัตกรรมโครงสร้างพื้นฐาน นโยบายสังคมแบบมีส่วนร่วม และการกำกับดูแลที่ก้าวทันอนาคต

สำหรับจุดแข็งของดูไบ มีการวางแผนและลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ พัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล และส่งเสริมสตาร์ตอัปและผู้ประกอบการด้านนวัตกรรม ผ่านนโยบาย Smart City ระดับชาติและโครงการขนาดใหญ่ ที่สนับสนุนระบบขนส่งอัจฉริยะ บริการออนไลน์ของภาครัฐ และโครงสร้างที่เอื้อต่อการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย ในชีวิตประจำวัน และมีการดึงดูดและรักษาบุคลากรทักษะความสามารถสูง เปิดโอกาสวิจัยและพัฒนาในหลายสาขา เช่น ปัญญาประดิษฐ์  เมืองอัจฉริยะ พลังงานสะอาด ทำให้ดูไบเป็นต้นแบบการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการสร้างความยืดหยุ่นและความสามารถในการแข่งขันระดับโลก  

โดยโครงการเทคโนโลยีสำคัญของดูไบที่ประสบความสำเร็จและเป็นต้นแบบระดับโลก ได้แก่ โครงการ Dubai Smart City เน้นเปลี่ยนดูไบเป็นเมืองอัจฉริยะ เช่น ระบบขนส่งอัจฉริยะ ระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินอัตโนมัติ เมืองไร้กระดาษ และ Open Data Platform ที่ให้ทุกภาคส่วนเข้าถึงข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ , Mohammed bin Rashid Al Maktoum Solar Park โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก , “The Sustainable City” ชุมชนต้นแบบ Net Zero Energy รายแรกในภูมิภาคที่ใช้พลังงานทดแทน 100% , ระบบขนส่งสาธารณะอย่าง Dubai Metro ที่ใช้ระบบรางอัตโนมัติไร้คนขับเต็มรูปแบบ และ Dubai Reefs โครงการฟื้นฟูมหาสมุทรและแนวปะการังทางทะเล  

“โครงการเหล่านี้ ทำให้ดูไบได้ชื่อว่าเป็นผู้นำเมืองอัจฉริยะและนวัตกรรมของโลก ทั้งในมิติเมืองดิจิทัลสีเขียว และบริการที่ตอบโจทย์ชีวิตยุคใหม่อย่างแท้จริง ซึ่งไทยสามารถที่จะพิจารณาโครงการที่ประสบความสำเร็จดังกล่าวมาใช้เป็นต้นแบบในการพัฒนาเมืองของไทยได้ต่อไป” นางสาวสุนันทากล่าว

ทั้งนี้ สำหรับผู้สนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เว็บไซต์ www.ditp.go.th หรือสายด่วน 1169 และสำหรับผู้ที่สนใจสมัครเป็นผู้ขายบนเว็บไซต์หรือติดตาม

ข้อมูลการค้าและคำสั่งซื้อจากทั่วโลกสามารถเข้าไปที่ แพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ระหว่างประเทศ thaitrade.com

Share post:

spot_img
spot_img

Related articles

วิทยุการบินฯ ยืนยันเที่ยวบินมาไทยบินได้ปลอดภัย 

วิทยุการบินฯ ยืนยันเที่ยวบินมาไทยบินได้ปลอดภัย เชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้เดินทางท่องเที่ยวไทยอย่างมั่นใจ

กรมทรัพย์สินทางปัญญา ผลักดันการสร้างรายได้ให้ชุมชมท้องถิ่น

กรมทรัพย์สินทางปัญญา จับมือ Meta ผลักดันการสร้างรายได้ให้ชุมชมท้องถิ่น และป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา

รัฐบาล สั่ง! ปิดเส้นทางเสี่ยง ชายแดนไทย–กัมพูชา

รัฐบาล สั่ง! ปิดเส้นทางเสี่ยง ชายแดนไทย–กัมพูชา แนะ ปชช. เลี่ยงการเดินทางพื้นที่ปะทะ ย้ำความปลอดภัยของ ปชช. สำคัญสุด

รัฐบาลประณามกัมพูชา ใช้อาวุธจรวด BM-21 ยิงพลเรือนไทยเสียชีวิต

รัฐบาลประณามกัมพูชา ใช้อาวุธจรวด BM-21 ยิงตกเข้ามาในพื้นที่พลเรือน ส่งผลให้ ปชช.เสียชีวิต ซึ่งเป็นความจงใจ ไม่ใช่อุบัติเหตุ